Back to Discover
ขับรถเที่ยวในฤดูหนาว

LAZY COUP : เที่ยวเป็นคู่
10 Jul 2019เปิดมุมมองใหม่ของการเที่ยว กับ การขับรถ ในฤดูหนาว ประเทศญี่ปุ่น
วันนี้พามาเปิดมุมมองใหม่องการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นด้วยการขับรถกันค่ะ โดยครั้งนี้เราสองคน หนูและคิม จากเพจ Lazy Coup : เที่ยวเป็นคู่ จะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวกัน ซึ่งครั้งนี้เราวางแพลนเที่ยวหิมะญี่ปุ่นแบบยาวๆกันเลย ไล่เจเปนแอลป์แถวๆจังหวัดนากาโน่ ไล่ยาวไปจนถึงเซนไดที่อยู่ที่โทโฮคุเลย ซึ่งเป็นเส้นที่เราแนะนำเลยนะ เพราะล่าสุดการบินไทยพึ่งเปิดเส้นทางบินตรงไปกลับเซนไดด้วย ทำให้เราสามารถแพลนโดยการนั่งเครื่องไปลงที่นาโกย่าแล้วกลับจากเซนไดก็ได้ ทำให้ไม่ต้องเดินทางย้อนไปย้อนมาอีกด้วยนะ ซึ่งในการเที่ยวของเรานั้นสิ่งที่เป็น “ตัวตน” ของเรา คือ ความเป็นอิสระในการเดินทาง เพราะเราชอบเที่ยวแบบยืดหยุ่น ไม่แพลนอะไรตายตัว เรียกว่าเจอตรงไหนสวยก็แวะเที่ยวไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะโซนต่างจังหวัดของญี่ปุ่นมักมีมุมสวยๆมากมายที่ให้เราไปชิวไปแวะเที่ยวได้ ซึ่งสมัยก่อน เราสองคนเคยเที่ยวญี่ปุ่นด้วยการนั่ง JR และ Bus หลายครั้งแล้ว แต่พบว่าการนั่งแบบ JR หรือ Bus จะมีความยืดหยุ่นค่อนข้างน้อย เหนื่อยต่อการขนของ โดยเฉพาะการขึ้นลงเปลี่ยนขบวนอยู่หลายหน และจำนวนผู้คนในช่วง Rush Hour ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ตอบความเป็นตัวตนของเราเลย
|
ทำไมถึงขับรถ ในช่วงฤดูหนาวเมื่อพูดถึงความสวยงามของสองข้างทาง เราก็ยกให้ “ฤดูหนาว” ของญี่ปุ่น เป็นช่วงเวลาที่น่าขับรถเที่ยวมากที่สุด เพราะวิวสองข้างทางที่เห็นจะถูกหิมะปกคลุมไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่สีขาวโพลน สวยงาม แปลกตากว่าที่ไหนๆ
ที่เที่ยวที่ดังๆ อย่างชิราคาวาโกะ อาจจะเป็นสถานที่ที่สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะเข้าไปได้ เพราะพื้นที่เที่ยวไม่ได้กว้างขวางนัก แต่ยังมีอีกหลายที่ที่เป็นที่เที่ยวแบบ Hidden Gem ซึ่งแน่นอนว่าหากใช้ขนส่งสาธารณะเราคงเที่ยวได้ไม่กี่ที่ รวมไปถึงยังอาจจะพลาดการไปเที่ยวในหลายๆ จุดซึ่งจุดเหล่านี้พูดเลยว่ามันคือไฮไลท์หลักของทริปนี้เลย มาดูกันว่า มีที่ไหน ถ้าไม่ขับรถ อาจจะไม่ได้พบเจอความสวยงามกันค่ะ |
สถานที่ที่ไม่ขับรถ อาจจะไม่สามารถมาเที่ยวได้1.Togakushi jinja เราเห็นภาพจาก Pinterest ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ อายุมากกว่า 700 ปี ทำให้เราสองคนปักหมุดมาที่พิกัดนี้ ที่เมือง Nagoya ซึ่งหากไม่ขับรถมาก็อาจจะไม่ได้พบความสวยงามของที่นี่เลย เพราะละแวกนี้ไม่มีรถ JR ต่างๆ ให้บริการ |
|
||
|
2.Tadami River ถ่ายภาพกับรถไฟสายโรแมนติกของญี่ปุ่น กับ Tadami River เนื่องจากการขับรถจะทำให้เราสามารถหยุดจอดถ่ายรูปรถไฟท่ามกลางวิวต่างๆ ได้หลากหลายมุม และนอนพักในโรงแรมที่ติดริมแม่น้ำเส้นนี้ได้ด้วย แต่หากเราใช้บริการขนส่งสาธารณะนั้น นอกจากจะใช้เวลามากแล้วมีหลายมุมที่ไม่มีรถสาธารณะไปถึงอีกด้วย |
3.Zao Fox village ถึงแม้ที่นี่จะมีคนรีวิวค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ในเรื่องของการเดินทางมาค่อนข้างจะไม่สะดวกนัก โดยปกติคนทั่วไปที่ไม่ได้เช่ารถ จะต้องนั่งแท็กซี่ต่อจาก JR มาเองค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่าย Taxi ก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว หากวางแผนทริปดีดี แล้วมากันหลายคน หลายที่ การขับรถก็อาจจะประหยัดกว่าด้วย สำหรับที่นี่ก็มาดูสุนัขจิ้งจอกนอนหลับท่ามกลางหิมะกัน |
|
แต่แน่นอนว่าการขับรถเที่ยวประเทศที่มีหิมะตกเป็นสิ่งที่เราไม่เคยพบเจอในประเทศไทย ดังนั้นเราจึงควรที่จะมาเตรียมความพร้อมกันก่อนว่าการขับรถเที่ยวในช่วงหิมะตกแบบนี้ ข้อดีอย่างไร และต้องมีข้อระวังอะไรบ้างสำหรับการเดินทาง เพื่อให้เที่ยวได้อย่างสนุก และปลอดภัยค่ะ
ก่อนจะเช่ารถยนต์ ควรเลือกอย่างไรในการเลือกรถเช่าของญี่ปุ่นช่วงที่เป็นฤดูหนาว/หิมะ แนะนำให้เลือกเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และต้องขอยางเป็นชนิด Winter Tire ค่ะ ไม่ว่าจะขับรถใกล้หรือไกลแค่ไหน ก็ต้องใช้รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และยางดังกล่าว เพราะ ในช่วงที่มีหิมะตกหนัก เราอาจจะต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อช่วยในการตะกุยหิมะ และการใช้ 4WD คู่กับยาง Winter Tire จะทำให้มีการยึดเกาะถนนได้หนึบขึ้น ลดความเสี่ยงของถนนลื่นได้เยอะค่ะ ในบางพื้นที่ เช่น อุโมงค์ ภูเขาต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นคอยเดินมาเช็ครถยนต์ของเราว่า เป็นระบบขับเคลื่อน 4WD และ Winter Tire หรือไม่ หากว่าไม่มีสองอย่างดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่จะมองว่าเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ และไม่ให้เราใช้เส้นทางดังกล่าวค่ะ เราก็จะไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ถึงจุดหมายที่วางแผนไว้ได้ |
|
||
|
นอกจากนี้ควรซื้อประกันภัยจากร้านเช่ารถเป็นแบบ Double Protection Package หรือ มี Exclusion of Liability Compensation และ NOC exemption ทั้งสองอย่างค่ะ เพราะจะครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์เป็นรอยขูดขีดเล็กน้อย จนถึงอุบัติเหตุต่างๆค่ะ |
ประกันภัยการเดินทาง
ประกันภัยการเดินทาง สำคัญหรือไม่? หลายๆ คน ที่มาท่องเที่ยวต่างประเทศอาจจะไม่ซื้อประกันภัยการเดินทาง เพราะคิดว่าเปลืองเงิน และคิดว่า ไปเที่ยวไม่กี่วัน ไม่น่าจะมีอะไรอยู่แล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่า หากเกิดอะไรขึ้นมาสักอย่าง จะทำให้ทริปติดขัด และอาจจะมีค่าใช้จ่ายมหาศาลตามมาได้ และยิ่งหากเป็นทริปที่ขับรถในช่วงหิมะตก ก็แนะนำว่าให้ซื้อประกันภัยการเดินทางไว้เพิ่มเติม จะอุ่นใจ และครอบคลุมมากกว่าค่ะ
โดยครั้งนี้เราซื้อประกันภัยการเดินทางของ TIPINSURE ซึ่งสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลยค่ะ และยังมีรายละเอียดเรื่องของการคุ้มครองที่ครอบคลุมตั้งแต่เรื่องไฟล์ทบินดีเลย์/ อุบัติเหตุทางร่างกายและทรัพย์สิน ไปจนถึงเรื่องของสุขภาพความเจ็บป่วยต่างๆ ที่อาจจะมีได้ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวค่ะ
รู้จักถนนหนทางของญี่ปุ่น และสภาพถนนเมื่อมีหิมะถนนหนทางของญี่ปุ่นค่อนข้างเป็นทางตรงส่วนใหญ่ ไม่ได้มีทางโค้งหักศอกที่เป็นอันตรายอย่างไทย เพราะญี่ปุ่นมักจะทำอุโมงค์ทะลุภูเขาไปแทบทุกลูก ทำให้ช่วยลดเรื่องการขับรถทางโค้ง วิสัยทัศน์ไม่ดีได้มากค่ะ |
|
หากวันไหนที่มีหิมะตก จะมีเจ้าหน้าที่ขับรถมาเคลียร์หิมะบางส่วนบนพื้นถนนให้ตั้งแต่เช้ามืดแล้วค่ะ จึงทำให้เรายังเห็นเส้นถนนชัดเจนค่ะ จากการทำทาง และการดูแลอย่างเคร่งครัดของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้การขับรถในช่วงหิมะตกของญี่ปุ่นไม่ยากมาก
ไม่ยาก ไม่ได้หมายถึงว่า ไม่ต้องระวัง ยังมีสิ่งที่เราจะต้องระวังอยู่อย่างหนึ่งมากๆ คือ “Black Ice” หรือก้อนน้ำแข็งสีดำ เจ้าก้อนน้ำแข็งสีดำนี่แหละ คือ ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะ Black Ice คือ ถนนที่มีการเคลือบด้วยน้ำแข็งใสๆ บางๆ จะละลายก็ยังละลายไม่หมด ซึ่งทำให้ถนนลื่นมากเป็นพิเศษค่ะ จึงกลายเป็นว่าเราจะต้องระวังการขับรถกรณีเห็นพื้นใสๆ มากขึ้นกว่าเห็นปุยของหิมะ |
|
|
มาเตรียมสภาพตนเองและรถกันเมื่อเรารู้สภาพถนนของญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วว่าจะต้องระวังอะไรบ้าง เราก็ต้องมาเตรียมตัวสภาพของคนขับ และสภาพของรถยนต์กัน ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.ก่อนขับรถ - เช็ดหิมะ ออกจากตัวรถทั้งหมดก่อน โดยตามโรงแรมและที่จอดรถ มักจะมีแปรงปัดหิมะแขวนไว้ให้อยู่แล้ว เราก็ใช้แปรงปัดจาก “บน” ลง “ล่าง” หรือไล่ปัดตามหลังคารถก่อน แล้วค่อยๆ เป็นกระจกรถยนต์ กระโปรงรถยนต์ไปจนถึงไฟต่างๆ ที่ต้องเน้นเรื่องเช็ดหิมะออกก่อน เพราะหากเราไม่ปัดหิมะตรงหลังคา ขับรถไปสักพักเกิดหิมะไหลหลังบังกระจกหน้าจะบังวิสัยทัศน์ในการมองเห็น และหากเราไม่ปัดตรงไฟท้าย ถึงเราเปิดไฟให้สัญญาณ รถคันหลังก็ไม่รู้ได้ค่ะ การเช็ดหิมะจึงเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่อันตรายที่สุดได้ |
- เช็คร่างกายคนขับ โดยเฉพาะ ส่วนเท้า เพราะหลังจากเราเดินลุยหิมะไปที่รถ หรือปัดหิมะ มั่นใจได้ว่าคนขับทุกคน รองเท้าต้องเต็มไปด้วยหิมะไม่มากก็น้อย ซึ่งเมื่อรองเท้าเรามีหิมะ จะเกิดข้อเสียคือ การชา/เย็นตามปลายเท้า ทำให้ความเร็วในการตอบสนองต่อเบรก/คันเร่ง ช้าลง และมีโอกาสรองเท้าหลุดในขณะขับรถได้ค่ะ อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้นะคะ |
|
||
|
2.ขณะขับรถ - ห้ามเปลี่ยนแปลงความเร็วกะทันหัน เพราะอาจจะเกิดล้อฟรี หรือเสียการทรงตัวได้ ซึ่งจะต้องระวังเป็นพิเศษเมื่อเจอทางโค้งค่ะ และเมื่อเจอ Black ice |
- เว้นระยะห่างจากคันหน้าเป็นพิเศษ เพราะถนนลื่นค่ะ หากคันหน้าเกิดเบรกฉุกเฉิน หรือมีอุบัติเหตุใดๆ จะลดความเสี่ยงการชนท้ายได้มากขึ้นค่ะ
- ขับรถช่วงฤดูหนาวกินน้ำมันมากกว่าฤดูอื่นๆ ดังนั้นคอยเช็คเรื่องน้ำมันทุกครั้งที่ขับรถด้วยค่ะ |
|
||
|
3.การจอดรถ - สั้นๆ ง่ายๆ คือ จอดในที่ที่ควรจอดค่ะ เช่น ลานจอดรถต่างๆ ที่เตรียมไว้ให้/จุดพักรถ แต่ไม่ควรจอดตามไหล่ทางเด็ดขาดค่ะ เพราะไหล่ทางจะถูกปกคลุมด้วยหิมะสูงมาก เราอาจจะมองไม่เห็นจุดที่ต้องระวัง และรถที่มาก็จะต้องเบรก และอาจทำให้เสียการทรงตัวได้ค่ะ - จอดแล้วไม่ต้องใช้เบรกมือ ให้จอดโดยเลื่อนเกียร์ไปตัว P (Park) แทนค่ะ เพราะหิมะอาจจะเข้าไปเกาะเบรกมือ ทำให้ยกขึ้นแล้วยกลงไม่ได้นั่นเอง - การจอดรถข้ามคืน หรือ จอดเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้ยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นค่ะ จะได้ปัดกระจกทำความสะอาดได้ง่าย และป้องกันยางของที่ปัดน้ำฝนเสียหายได้ด้วย |
ทั้งหมดนี้ก็คือ ข้อมูลที่ต้องเตรียมตัวทั้งหมดในการขับรถยนต์เที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว/หิมะ เพื่อให้ทริปของเพื่อนๆ ได้เปิดมุมมองใหม่ เที่ยวสนุก หลากหลายและปลอดภัยมากขึ้นค่ะ คู่เราอยากชวนเพื่อนๆ มาขับรถเที่ยวญี่ปุ่นแบบที่เราชอบ เพราะมันทั้งยืดหยุ่นและมีอิสระในการเที่ยว เราเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆ ลองซักครั้งแล้วจะไม่อยากกลับไปเที่ยวแบบเดิมเหมือนเราอีกเลย หากใครชอบเนื้อหา content ก็สามารถเข้ามาพูดคุยกับเราสองคนได้ที่ www.facebook.com/lazycoup กันได้นะคะ
Recommend

เวลาเที่ยว
Date 30 Apr 2020
Nonstop Journey
Date 27 Apr 2020
ไปกันนะ : Pai Gun Na
Date 16 Dec 2019
ฉันกลัวที่แคบ
Date 16 Dec 2019
หนีงานไปเที่ยว
Date 25 Nov 2019
WTF : We Travel Forever
Date 25 Nov 2019
จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น
Date 22 Nov 2019
กินเพลิน เดินเที่ยว
Date 18 Nov 2019
ไปไง มาไง
Date 05 Nov 2019
GoGraph Japan
Date 05 Nov 2019
Scratch da world / สองเท้า-เกาโลก
Date 22 Oct 2019
Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Date 08 Oct 2019
Little Monster
Date 23 Sep 2019
Travelerspulse
Date 20 Sep 2019
แฟนพาเที่ยว / My Life My Travel
Date 02 Sep 2019
เที่ยวสบาย 9 Booking
Date 23 Aug 2019
Go Went Gone ไปไม่เว้น
Date 31 Jul 2019
สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Date 12 Jul 2019
6 August Journey
Date 12 Jul 2019
CoolBieЯe's Folio
Date 11 Jul 2019
LAZY COUP : เที่ยวเป็นคู่
Date 10 Jul 2019
แม่จ๋าๆพามาตาไปเที่ยวหน่อย
Date 10 Jul 2019
พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน
Date 04 Jul 2019