Back to Discover
Follow your passion

สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน
12 Jul 2019“Follow your passion” ไบคาลและทรานไซบีเรีย
สานฝันสมัยวัยเยาว์ กับ ทางรถไฟทรานไซบีเรีย 1 ใน bucket list ที่ครั้งหนึ่งต้องมา !!
ทริปนี้อยู่ในความฝันของเรามาหลายปีมาก ๆๆ เป็นทริปที่ตั้งต้นจาก ความเป็นตัวตนของเรา เองล้วน ๆ การที่เป็นคนชอบเดินทางและถ่ายภาพแนวแลนด์สเคป ชอบธรรมชาติ ชอบหิมะ ชอบอากาศหนาว และชอบรถไฟมาก มันเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะคิดถึงเส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรียนเป็นจุดหมายแรก แต่ด้วยความไม่พร้อมหลายอย่างทั้งเรื่องเวลาและงบประมาณการเดินทาง เพราะเรามัวไปคิดว่าจะเริ่มทริปจากวลาดิวอลสตอคไปมอสโคว เหมือนที่เรียนมา หรือไม่ถ้าเริ่มต้นที่ปักกิ่ง มันก็ต้องใช้เวลาและงบการเดินทางที่ไม่น้อยเลย
"เพราะโลกมันกว้าง เราจึงต้องออกเดินทาง"
พอมีเพื่อนมาชวนไปเริ่มต้นทริปที่ อีร์คุตสค์ Irkutsk เมืองหลักของไซบีเรีย ความฝันมันก็ใกล้ความจริง เข้ามามากขึ้น เพราะงบและเวลามันลดลงไปมาก กลุ่มเพื่อนที่ไปด้วยกัน เค้าไปดูแสงเหนือกันต่อที่เมอมังค์ แต่เราเคยเห็นที่ไอซ์แลนด์แล้ว เลยขอไปแค่ไบคาล และนั่งรถไฟสายในฝันแค่ช่วงเดียวก็พอใจแล้ว อย่างน้อยเราก็ได้ทำความฝันส่วนหนึ่งของเราให้เป็นจริงได้
ทริปนี้เดินทางกันตั้งแต่ตอนบ่ายวันที่ 27 กพ.ที่ผ่านมา ไปถึงอีร์คุตสคตอนเที่ยงคืน กว่าจะหลุด ตม.รัสเซียออกมาได้ก็เล่นเอาเป็นชั่วโมง เดินลากกระเป๋าออกไปที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม
ตื่นเช้ามา มีไกด์มารับเพื่อเดินทางไปทะเลสาบไบคาล ใช้เวลาชิล ๆ ประมาณ 3 ชั่วโมงกว่า ๆ นอนบนเกาะ Olkhon 2 คืน ใช้เวลากับไบคาลอย่างเต็มอิ่ม เอาจริง ๆ ถ้าเราไม่ได้ชอบถ่ายรูปมากนัก อยู่แค่นี้พอน่ะ เพราะมันมีแต่น้ำแข็ง และน้ำแข็ง คนไม่ถ่ายรูปอาจจะเบื่อได้ แต่เราว่าอยู่ต่ออีกซักคืนกำลังดี เพราะยังถ่ายรูปไม่คุ้มกับความอยากมาที่นี่เลย
กลับเข้าอีร์คุตสค์วันที่ 2 นอนที่นี่ 2 คืน เช้าวันที่ 4 เดินทางไปขึ้นรถไฟสายทรานไซบีเรียที่สถานีรถไฟอีร์คุตสค์ อยู่บนรถไฟยิงตรงเข้ามอสโคว 4 วัน และอยู่เที่ยวมอสโคว 1 วันก่อนจะบินกลับไทยในคืนวันที่ 8 มีค.
ทริปนี้ใช้เวลา 11 วัน แต่ได้เที่ยวไม่กี่ที่ แถมใช้เวลาบนรถไฟอย่างเดียว 4 วัน แต่กลับเป็นหนึ่งในทริปที่มีความสุข สนุกสนานและประทับใจที่สุด
โปรแกรมทริปนี้ง่าย ๆ เที่ยวตามใจฉัน ไปไหนก็ได้ที่อยากไป ถ่ายรูปเท่าที่อยากถ่าย เพราะ มันเป็นทริปตามหาตัวตนของเราที่หายไป ที่ผ่านมาแม้เราจะเดินทางมากมาย แต่หลายทริปเป็นทริปที่เดินทางตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นทริปที่เดินทางตาม passion ของเรา ชีวิตเมื่อขาด passion นาน ๆ เข้ามันก็ไร้ชีวิตชีวา ไร้สีสัน ความสุขในการทำสิ่งเดิม ๆ มันก็จะลดน้อยลง เพราะ passion มันเหมือนเป็นแรงผลักดันในชีวิตที่ทำให้เราอยากลงมือทำในสิ่งที่รักและหลงใหล เพราะสิ่งเหล่านั้นมันทำให้เรามีความสุขและเป็นเป้าหมายหนึ่งในชีวิต มาเติมไฟ passion ในชีวิต ด้วยการออกเดินทางไปในที่ ๆ เราไม่เคยไป ... ประเทศใหม่ ๆ เมืองใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ ๆ ที่เราไม่คุ้นเคยกันเถอะ
ปล .... รีวิวนี้ไม่ใช่รีวิวมีรายละเอียดแบบไกด์บุ๊คนะคะ เราแค่อยากให้ภาพภาพรวมของทริปรวมทั้งเกร็ดเล็กน้อยทีคิดว่ามีประโยชน์ นั่นเพราะเราคิดว่าภาพถ่ายจากการเดินทางของเราน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่มีความฝันก้าวเท้ามาออกเดินทางแบบเราบ้าง เพราะหลายครั้งที่การเดินทางของเราก็เริ่มต้นจาก "ภาพถ่ายภาพเดียว" เหมือนกัน ^^
ที่นี่ไบคาล
Once upon a time in Baikal
ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมา!!
มันเกินจะฟิน แม้ทริปนี้ไม่ได้แสง ไม่ได้มุม ไม่ได้รูปอย่างที่ต้องการ แต่อารมณ์มันได้!! เราออกจากไบคาลมาเอียคุสต์แล้วใจหายเหมือนกัน เพราะที่นี่คือหนึ่งในความฝันของเรา แต่ไบคาลมันอยู่แค่ไซบีเรียไว้มาใหม่ได้ไม่ยาก แต่ต้องเป็นช่วง กพ.ถึง มีค.น่ะ ซึ่งปีนี้คนในพื้นที่บอกว่าน้ำแข็งจะละลายเร็วกว่าปรกติมาก อากาศอุ่นเร็วมากกว่าปรกติ
ตอนที่ไปไบคาลอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 1 ถึง -16 องศาน่ะ เพราะฉะนั้น ใครจะมาจะไปช่วงเสี่ยงที่น้ำแข็งจะลายก็เช็คข่าวกันให้ดี ๆ เพราะถ้ามันเริ่มละลาย นั่นคือความไม่ปลอดภัยที่รถจะวิ่งบนทะเลสาบน่ะจ๊ะ และเค้าอาจจะไม่ให้รถวิ่งเด้อ ทริปนี้เลยถ่ายรูปมาไม่มาก แต่ความทรงจำมีมากมายเกินจะบรรยาย ปีนี้ฟินมาก แต่ปีหน้ามาใหม่และอาจจะเลยขึ้นไปดูแสงเหนือที่เมอมังค์ด้วยเลย
|
|
|
|
||
|
|
|
|
||
|
|
**สรุปไบคาลให้คร่าว ๆ**
- มันคือสวยมากกก อลังการทุกมุมมอง แต่ต้องทนหนาวได้เพราะมันหนาวเข้ากระดูกจริง ๆ ใครไม่สู้ ไม่แนะนำ มาแล้วไม่สนุกแน่
- เดินบนน้ำแข็งยากน่ะ มันลื่นมากโดยเฉพาะบ่าย เพราะน้ำแข็งเจอแดดละลายบ้างแต่ช่วงเช้าเท่าที่เดินมา 2 วันเดินง่ายกว่ามากถ้าเป็นไปได้หา Snow grips มาใส่รองเท้าด้วยน่ะ
- ใครจะมาแปลนไว้เลยปีหน้า กพ. ถึง มีค. ดีที่สุด เพราะถ้าอากาศอุ่นมากเหมือนปีนี้ คนในพื้นที่บอกว่าน้ำแข็งอาจจะไม่ถึงปลายมีค.ด้วยซ้ำ ลุ้นกันเองเด้อ
- บินตรงจากกรุงเทพ ด้วย S7 เครื่องแอร์บัสนั่งสบาย กว้างใช้ได้ อาหารพอได้
- ซื้อทัวร์เลย มีจัดมากมาย แต่ 3 วัน 2 คืน คิดว่าน้อยไปน่ะ เพราะกว่าจะไปถึงรถก็ไม่วิ่งต่อแล้ว เพราะเค้าวิ่งวันล่ะ 6 ชม. เราเที่ยวได้อย่างเก่งแค่วันครึ่ง คราวหน้ากลับมาใหม่ต้อง 3 คืนกำลังดี
- รถ 4X4 ที่พาเที่ยววิ่ง 6 ชม. คิดวันล่ะ 10000 RUB เกินคิดชม.ล่ะ 2000 เราต่อ 3 ชม. เพื่อเก็บแสงเย็นเหมาไป 5000 RUB
- จองทัวร์มาเช็คโรงแรมดี ๆ น่ะ เพราะบนเกาะโอคอนที่พักเป็น hostel เป็นส่วนมาก ถ้าจะนอนติดดาวต้องระบุเด้อ ซึ่งอาจจะมีไม่เกิน 2 ดาว
- Make sure กับทัวร์ว่าที่พักไม่ไกลจาก Shaman Rock น่ะ เพราะไม่งั้นจะเดินไกลมาก จะเสียค่ารถเพิ่มโดยไม่จำเป็น
- เราพักไกลมาก วันแรกเดินไปเป็นชั่วโมงขากลับเรียกรถมารับ 500 รูเบิ้ล อีกวันต้องจ้างแท๊กซี่ไปส่งตี 4 ครึ่ง เพื่อถ่ายทางช้างเผือก และต้องเดินลงไปอีกไกลเลย เค้าคิดรับส่ง 1500 รูเบิ้ล
- อาหารเท่าที่ทานตั้งแต่มื้อแรกถึงวันนี้ คิดว่าผ่านน่ะ บางมื้อคืออร่อยเลย พวกเราน่าจะทานได้
- มาถึงไบคาลแล้ว ต้องห้ามพลาดทานปลาโอมุลน่ะ ทานแบบรมควันอร่อยมากสุด ๆ เราเพิ่มสั่งพิเศษที่โรงแรมตัวล่ะ 350 รูเบิ้ล
- นักท่องเที่ยวไทยมากมายมหาศาล มาแล้วอบอุ่น ไม่ต้องกลัวเหงา 555
- โหลด app google translate ไว้ด้วยน่ะ มีประโยชน์ต้องได้ใช้แน่นอน แถมแปลแม่นมาก ถ้าเราใช้ภาษาอังกฤษแปลเป็นรัสเซี่ยน
|
|
**************************************************
อีร์คุตสค์ Irkutsk
Kazan Church of Irkutsk
โบสถ์แดง สัญลักษณ์ประจำเมืองเอียร์คุสต์ ด้านนอกว่าสวยงามโดดเด่น แต่ด้านในสวยวิจิตรยิ่งกว่า โบสถ์คาซานเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกรูปโดมทรงเครื่องวงกลมแบบรัสเซีย เปิดให้เข้าฟรีจ้า
ปล... แสงแบบในรูปถ่ายตอนบ่ายน่ะ
การเดินทางจากถนนเลนิน
นั่งรถบัสสาย 64 ประมาณ 30 นาที เดินอีก 300 เมตร
แต่เราเดินจากที่พัก 2 กม.ข้ามสะพานชิล ๆ
เมืองนี้เป็นเมืองที่เดินถ่ายรูปสนุกมาก แค่เดินดูประตูหน้าต่างย่านเมืองเก่าของเค้าก็คุ้มแล้ว นี่เป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป เผื่อเวลาเดินเล่นในเมืองบ้างเถอะน่ะ มันฟินมาก อาร์ตเว่อร์จริง ๆ |
|
|
|||
|
|
บรรยากาศการเดินทางเส้นทางรถไฟสายทรานไซบีเรียในฝัน |
|
||
|
ตอนขึ้นรถคนเดียว ห้องมันก็ดี ๆ กว้าง ๆ อยู่น่ะ |
พอขึ้นมาอยู่กับครบปุ๊บ แน่นกันเลยทีเดียว 5555 |
|
|
ห้องนอนเล็กมากสำหรับ 4 คน แต่ก็พอจัดของจัดกระเป๋าได้ 29" 1 ใบ 24" อีก 3 กระเป๋ากล้อง 3 กระเป๋าเสบียง 2 วันแรกรุงรังหน่อย พออยู่ไปอยู่มาก็พอไหว ราคาเตียงบนกับเตียงล่างจะต่างกันอยู่ประมาณสองพัน ข้อดีของเตียงบนคือเป็นส่วนตัวมากกว่า เห็นวิวเหมือนกัน แต่จะไม่ได้วิวเต็มเฟรมเหมือนอยู่ด้านล่าง ส่วนเตียงล่างมีโต๊ะไว้ใช้งาน มีพื้นที่วางข้าวของได้มากกว่า และมีวิวดูตลอดทาง แต่ถ้าไปกับคนไม่รู้จัก อาจจะรำคาญหน่อยเพราะต้องเจอคนปีนขึ้นปีนลงกันทั้งวันล่ะ |
|
บนรถไฟวัน ๆ เรามีแต่กิน ๆ นอน ๆ นี่ยังคิดว่าถ้ามาคนเดียวเต็มสายตามที่แปลนไว้ อาจจะบ้าไปแล้ว 555 แต่นี่มีเพื่อนมาด้วยตั้ง 3 คน ดีไม่ดีกลับไปภาพความทรงจำบนรถไฟอาจจะชัดเจนกว่าวิวสวย ๆ ข้างทางก็ได้ ^^ |
|
ห้อง 4 คนขนาดเล็ก พออยู่ได้ เตียงขนาดพอดีตัว มากพอที่จะพลิกซ้ายขวา มีไฟหัวนอนและกล่องเก็บของใช้ส่วนตัวให้ทุกเตียง ที่เห็นเปิดอยู่ มันคือพนักพิงศีรษะ แต่เปิดออกมากได้เป็นที่เก็บของนั่นล่ะ ส่วนเบาะรองนั่ง สามารถเปิดไว้เก็บกระเป๋าใบเล็กใบน้อยได้อีก และมีปลั๊กให้เสียบชาร์ตไฟ 2 ช่อง ใครที่มีอุปกรณ์ที่ต้องชาร์ตไฟเยอะ แนะนำให้เอารางไปด้วยน่ะ |
|
บนรถเค้าจะให้ผ้าเช็คตัว รองเท้าเดินในห้อง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระดาษเปียกให้ แต่มันใช้ไม่พอหรอก แต่เราตีซี้กับคนดูแลตู้เราแล้ว ก็ขอเพิ่มได้ง่าย ๆ |
|
พื้นที่พอให้นั่ง ๆ นอน ๆ ได้ตามสมควร แต่เราใช้พื้นที่ตู้เสบียงมากอยู่เล่นไพ่ สั่งอาหารมาทานราคาเฉลี่ยร้อยกว่าบาทเบียร์บนนี้เฉลี่ยขวดล่ะ 200-250 rub ตั๋วที่เราซื้อ จะรวมอาหารมื้อแรกให้มื้อนึง เป็นข้าวผัดง่าย ๆ น่ะ เอาจริง ๆ อาหารรัสเซียพอทานได้ บางมื้อบางร้านคืออร่อยเลย ซึ่งเราแปลกใจมาก แฮมที่เห็นเป็นยี่ห้อที่พวกเราชอบ ซื้อเก็บไว้เป็นเสบียงไว้ทานกับว๊อดก้า มันเข้ากันมาก ๆๆ |
|
4 วัน จะให้อยู่แต่ในห้องไม่ได้หรอก แต่ก็ไม่มีที่ไหนจะไปเหมือนกัน ...นอกจากเดินไปตู้เสบียงแล้ว มายืนรับแดดชมวิวไปได้ เพลินดี |
|
|
พวกเราไปทานอาหารในตู้เสบียงกันบ่อยมาก จนสนิทกับพนักงานประจำตู้กันเลย ก่อนลงมอสโควก็ต้องถ่ายภาพด้วยกันเป็นที่ระลึกหน่อย และจะบอกว่าตลอดเวลา 4 วันบนรถไฟ ก็เห็นจะมีพวกเรานี่ล่ะ ที่ไปใช้บริการบ่อยที่สุดล่ะ
|
รถจอดสถานีใหญ่ ๆ เป็นระยะ จอดครั้งล่ะ 5 - 10 นาที ลงไปยืดเส้นยืดสายกัน |
|
|
|
|
|
ธัญญ่าเป็นเจ้าหน้าที่รถไฟประจำตู้เรา นางดูแลดีมาก ใจดี ยิ้มแย้ม เป็นมิตรมาก ไม่เห็นเหมือนรัสเซียหน้าดุเย็นชา แบบที่เราเคยได้ยินมา นอกจากดูแลทุกอย่างบนตู้เราแล้ว ยังขายขนมอาหารบะหมี่ของที่ระลึกด้วย เราอุดหนุนนางทุกวัน เพราะเราให้นางช่วยดูแลล็อคห้องให้เวลาเราไปตู้เสบียงกัน อ้อห้องล็อคได้แต่จากด้านในน่ะ ด้านนอกล็อคเองไม่ได้ |
ห้องน้ำห้องท่าพอใช้อาบน้ำไม่ได้ ต้องเช็ดตัวเอา ดีที่เหงื่อไม่ออกแค่เช็ดตัวก็พออยู่ได้ แต่สำหรับคนสระผมทุกวันอย่างเรานี่แทบบ้า555 ใช้ dry shampoo กับโรยแป้งฝุ่นไปพลาง ๆ ถึงวันนี้ก็พอไหว แต่หลังจากนี้ยังไม่รู้
รถไฟวิ่งผ่านเมืองนั้นเมืองนี้ เน็ตก็จะมีตอนที่รถจอดในเมืองนั่นแหล่ะมาแว๊บ ๆ มาก ตั้งใจจะรีวิวอะไรคือลืมไปได้เลย วิวข้างทางเริ่มสวยตอนมีหิมะเยอะ ๆ มันคือสวยมาก นั่งมองวิวจากหน้าต่างในห้องเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ คือเพลินมาก นี่สินะเสน่ห์ของการนั่งรถไฟ อ้อเราลงไปวิ่งเล่นได้ บางสถานีเค้าจอด 10-20 นาที นอกนั้นนั่งทะเลาะกันไปจ้าาาา 555
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
นาน ๆ รถไฟจะแวะจอดนาน ๆ พอที่เราจะวิ่งเล่นไปกระโดดโลดเต้นที่ชานชาลาได้ บางครั้งจอดไม่รู้ตัวใส่รองเท้ากันไม่ทัน ลงมากระโดดทั้งสลิปเปอร์ก็มี 555 |
|
|
|
|
กันเบื่อ ก่อนมาโหลดหนังโหลดซีรีส์มาดูหลายเรื่องน่ะ แต่เอาจริง ๆ ยังไม่ได้ดูซักเรื่อง ก็มาเที่ยวแบบนี้มากับเพื่อนคอเดียวกันมันสนุกกว่านอนดูซีรีส์เป็นไหน ๆ ^^ แถมวิ่งเส้นนี้ย้อนไปมอสโควนี่ได้กำไรเวลาวันล่ะชม. เพราะนั่งย้อนเวลาไปยุโรป นั่งไปนั่งมา 4 วันที่อยู่บนรถไฟนี่ได้กำไรไปแล้ว 4 ชั่วโมงฟินมาก
**************************************************
มอสโคว Moscow
เรามีเวลาอยู่ในมอสโควแค่วันเดียว ก่อนเดินทางกลับไทยเลยขอเก็บที่ไฮไลท์ของเค้านิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นน้ำจิ้ม ตามประสาคนมีเวลาน้อย เพราะตั้งใจว่าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง พร้อมเที่ยว St.Petersburg ด้วย และแน่นอนว่า มามอสโควทั้งที ไม่ว่าจะมีเวลาน้อยแค่ไหนก็ต้องไปคือ
- พระราชวังที่เป็นมรดกโลก อย่างพระราชวังเครมลิน (The Kremlin)
- จตุรัสแดง Red Square ซึ่งเป็นพื้นที่ลานกว้างรูปทรงจตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลก
- มหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral) ซึ่งเป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย สร้างโดยซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย หรือซาร์อีวานจอมโหดในปี ค.ศ. 1555 เพื่อฉลองชัยชนะเหนือพวกมองโกลในสงครามที่เมืองคาซาน
- เดินชม(พอ) ห้าง Gum ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโคว
- มหาวิหารเซนต์ซาเวียร์ (The Cathedral of Christ the Saviour) วิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศซึ่งเราไม่ได้เข้าไปน่ะ เพราะกว่าจะเดินไปถึงเค้าก็จะปิดแล้ว
- ชมความงามของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Moscow Metro
- ถนนอาบัด (Arbat Street) เป็นถนนคนเดินที่ตั้งอยู่ในใจกลางของศูนย์กลางประวัติศาสตร์มอสโคว
|
|
|
สถานีรถไฟในรัสเซีย โดยเฉพาะในมอสโควคือสวยงามอลังการมาก มีเวลานั่งรถไฟเล่นเที่ยวดูแต่สถานีทั้งวันยังได้ |
นั่งรถไฟใต้ดินเมโทรจากที่พักมาจตุรัสแดงแค่ไม่กี่ป้ายก็ถึง เพราะฉะนั้นถ้าจะเลือกหาที่พักในเมืองใหญ่แบบนี้ ปรกติเราจะหาแบบที่อยู่ในรัศมีไม่กี่กม. จากแหล่งท่องเที่ยวหลักน่ะ มันจะประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก แถมเผื่อไว้เวลาต้องนั่งแท๊กซี่กลับโรงแรมด้วย ยิ่งไกล ยิ่งแพงเด้อ ^^
สายสีแดง มาลงที่สถานี Okhotny Ryad (Охотный ряд) ออกจากสถานีจะเจอจตุรัสแดงอยู่ด้านหน้า
สายสีเขียว มาลงที่สถานี Teatralnaya (Театра́льная) ออกจากสถานีเดินเลี้ยวหัวมุมก็ถึงจตุรัสแดง
ไปกับเพื่อนก็ดีแบบนี้เอง มีรูปกลับบ้านเพียบ ^^
ด้านในของ มหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil’s Cathedral)
|
|
เดินเล่นเรื่อยไปจากจตุรัสแดงไปมหาวิหารเซนต์ซาเวียร์
|
|
|
|
|
|
ถนนอาบัด (Arbat Street) ย่านการค้า ถนนคนเดินที่ต้องห้ามพลาด
เดินเรื่อยเปื่อยชมเมืองพอกรุบกริบ
|
|
สรุปอาหารในรัสเซีย
เท่าที่ได้ชิมตลอดเวลา 10 วัน รสชาติถือว่าผ่าน แถมดีกว่าที่คิด เป็นอาหารฝรั่งที่มีรสชาติไม่จืดชืดเหมือนอาหารฝรั่งตาน้ำข้าวชาติอื่น เราคนไทยไป คิดว่ารอดน่ะ เพียงแต่อาจมีเลี่ยนบ้างซึ่งต้องมีเมนูแซ่บๆ ของเรามาเบรคบ้าง เพราะเจอพาสต้าที่อร่อยมากแค่ไหนสองสามมื้อติดกันก็ไม่ไหวน่ะ
ราคาอาหารเฉลี่ยพอ ๆ กับเรา แต่ตอนนี้ค่าเงินเค้าอ่อน หลายอย่างเลยถูกกว่าเรา
#ข้าวต้ม หรือข้าวเปียก คือไม่ไหวจริงๆ ทานได้สามคำเลิก แต่ดูเหมือนจะเป็นเมนูมื้อเช้ายอดฮิตน่ะ เป็นข้าวเปียกต้มกับครีมชีสหรือข้าวโพด ทานเป็นอาหารคาวแต่มันหวานอย่างเดียว ไม่โอสำหรับเราอย่างแรง แต่คุณจิ๋วทานหมดแฮ่ะ
เมนูที่ต้องห้ามพลาด #ปลาโอมุล เราทานแบบรมควันอร่อยที่สุด เด็ดจริง ทานที่ไบคาล ตัวล่ะ 350 RUB เนื้อมันนวลละมุนลิ้นมาก ปลื้มสุด
#เนื้อกระป๋อง อร่อยมาก สายเนื้อพึ่งพาได้ เป็นเนื้อตุ๋นผสมเอ็น รสชาติดีมาก ถ้าไม่อุ่นก็ตักใส่บะหมี่ถ้วยร้อน ๆ เหมือนทานเตี๋ยวเนื้อ อร่อยเลย
#แฮม ยี่ห้อตามรูป หาซื้อได้ตามซุปเปอร์ อร่อยมาก ทานกับว๊อดก้ายิ่งเพลิน
#ข้าวผัดรัสเซีย คืออร่อยเลย เป็นข้าวผัดฝรั่งที่มีรสชาติ คนไทยชอบแน่นอน
#พาสต้า #สปา #พิซซ่า #สเต็ค คืออร่อยหมดและถูกกว่าเมืองไทย
#อาหารแนวผัด wok เนื้อไก่คล้าย ๆ ผัดเปรี้ยวหวาน #ผัดน้ำมันหอย ก็พอหาทานได้ตามคาเฟ่ ตักขายเป็นขีด ฝากท้องได้ล่ะ
#Kebab เค้าไม่ได้ห่อแป้งมาเหมือนที่คุ้น ๆ แต่แยกส่วนมาเป็นสเต็คเลย ทานแกะกับหมู กับซอสครีมโยเกิร์ต ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก หอมแดงหอมใหญ่ซอย ขนมปัง อร่อยมาก!!
#KFC ถ้าเจอคือกินเหอะ อร่อยสุดแระ แต่ขอซอสคิดเพิ่ม 40 RUB
#ไก่ย่าง ตามซุปเปอร์หรือที่สถานีรถไฟ ก็โอเคน่ะ รสชาติคล้ายบ้านเรา แต่มันชอบมาเย็น ๆ เราเลยว่าไม่โอ ในซุปเปอร์ตัวล่ะ 300 กว่า RUB
#ผักดอง แตงกวาดอง ขายเป็นโหลตามซุปเปอร์ เห็นแล้วซื้อติดไว้ ทานกับบะหมี่แก้เลี่ยนได้ แถมอร่อย ไม่เปรี้ยวมาก
#ว๊อดก้า ถูกและดีมีเยอะมาก ขึ้นรถไฟซื้อขึ้นมาทานในตู้ของเราเองเลย เพราะบนรถเค้าไม่ขาย Baikal ice คือดี !
#เบียร์ บนรถไฟขายเฉพาะที่ตู้เสบียง ซื้อไปทานในห้องไม่ได้ ที่เอียร์คุสต์ ไบคาลเค้าไม่ขายในร้านอาหารหรือโรงแรมเลยน่ะ ซื้อตามซุปเปอร์แล้วเอาไปทานในห้องพักเองได้
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ
ตั๋วไปกลับ 24,xxx บาท
แลนด์ไบคาล 500 USD หรือประมาณ 15,xxx บาท
รถไฟทรานไซบีเรีย 4 วัน 6,xxx บาท
ค่าอาหารและที่พักประมาณ 7,000 บาท
ซิม AIS 899 บาท
ซิมรัสเซีย 300 บาท
รวมแล้วทริปนี้ไม่ถูก ไม่มีส่วนลด และจ่ายเองทุกบาท แต่มันเป็นทริปที่ไม่ถูก แต่ไบคาลมันโคตรสวยยยยย และเป็นที่ ๆ มาแล้วแทบไม่อยากถ่ายรูปเห็นรูปสวย ๆ ใน IG นี่โคตรอยากตามหามุม แต่พอมาเห็นตาจริง ๆ นี่แทบไม่อยากจับกล้อง ลืมมุมที่อยากได้ไปเลย คือถ่ายอะไรก็ได้ ตรงไหนก็ได้ มันฟินแล้ว
แต่สัมผัสด้วยตา รับรู้ด้วยใจ มันฟินกว่า !!!
**************************************************
การเตรียมตัวก่อนการเดินทาง
วีซ่า
... คิดอยากจะไปรัสเซียปุ๊บ ซื้อตั๋วปั๊บก็กระโดดขึ้นเครื่องได้ทันที เพราะเราไม่ต้องใช้วีซ่าเข้ารัสเซียนะจ๊ะ และเราสามารถอยู่ได้ถึง 30 วัน มันช่างดีงามจริง ๆ สำหรับคนไทยที่อยากไปยุโรปแบบไม่ต้องคิดมาก เพราะนอกจากจะไปง่ายไม่ต้องเตรียมตัวนานแล้ว ค่าครองชีพเค้าถือว่าไม่แพง แถมดีไม่ดีหลายอย่างพอ ๆ กับบ้านเราเลยด้วยซ้ำ
จองตั๋วเครื่องบิน
คิดจะเดินทาง ก็ต้องหาตั๋วเครื่องบินกันก่อน ปรกติถ้าเดินทางแบบนี้เราเปิดหาเวบจองตั๋วทั่วไปได้เลย ครั้งนี้เราเลือกใช้ https://www.skyscanner.co.th เพราะมันสะดวก จองง่าย ซื้อตั๋วขาไปกลับแยกสายการบิน เพราะอยากจะประหยัดที่สุด และเราเดินทางจากกรุงเทพไปเอียร์คุตสก์ (Irkutsk) โดยสายการบิน S7 และขากลับเดินทางกลับจากมอสโคว ด้วยสายการบินแห่งชาติ Aeroflot แอร์โรฟลอต ซึ่งได้ราคามาค่อนข้างพอใจแม้จะไม่ได้ราคาที่ถูกที่สุดเพราะจองก่อนเดินทางไม่กี่วัน ถ้าใครอยากสานฝันเดินทางทริปที่บ่งบอกถึงตัวตนของเราในราคาดีกว่านี้ ควรจองเนิ่นกว่านี้นะคะ
มันขึ้นผลการค้นหามาให้เราเลือกซื้อแบบง่าย ๆ ดูกันง่าย ๆ มีการเปรียบเทียบราคากันเห็น ๆ ไปเลย เราว่าสะดวกดีน่ะ
|
|
|
จากกรุงเทพ เราเลือกบินกับสายการบิน S7 ซึ่งเป็นสายการบินหลักบินตรงไปเมืองอีร์คุตสค์ Irkutsk เมืองตั้งหลักของการเดินทางทริปนี้ ราคาไม่เบาเพราะจองกระชั้นชิดไปหน่อย ถ้าจองเนิ่น ๆ ก็จะได้ราคาถูกกว่านี้ |
|
จองที่พัก ประเภทและราคาที่พักเป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัวกำหนัดงบประมาณการเดินทางของเรา ปรกติเราเลือกจองผ่านเวบจองห้องทั่วไปนั่นล่ะ แต่ที่ใช้บ่อยที่สุดก็คือ www.agoda.com และ www.booking.com ใช้จนเป็น genius member ได้ส่วนลดเพิ่มอีก คิดว่าคุ้มสำหรับการจองที่พักในราคาที่เราพอใจ |
|
จองตั๋วรถไฟ แม้เราจะไม่ได้นั่งรถไฟสายทรานไซบีเรียแบบเต็มเส้นคือตั้งแต่เมืองวลาดีวอสตอค ไปมอสโคว ระยะทาง 5xxx กว่ากม. ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่บนรถไฟอย่างน้อย 7 - 8 วัน แบบ non-stop มันยาวเกินไป ไม่ว่าจะยิงตรง หรือจะแวะเที่ยวระหว่างทางก็ตาม การที่เราได้นั่งช่วงนึงจาก อีร์คุตสค์ Irkutsk ไปมอสโควรวดเดียวเป็นเวลา 4 วัน 4 คืน มันก็ฟินแระ กลับมาโม้ได้ว่าเราเนี่ย ได้นั่งรถไฟสายทรานไซบีเรียจากเอเซียข้ามไปยุโรปแล้วน่ะเฟ้ย ความฝันสมัยวัยเด็กเราเป็นจริงแล้ว ^^ จองรถไฟจากเวบนี้==> http://Pass.rzd.ru และอ่านวิธีการจองรถไฟสายนี้แบบละเอียดยิบได้ที่นี่ ==> https://pantip.com/topic/36106146 |
อินเตอร์เน็ต
ทริปนี้ซื้อซิมที่รัสเซียใช้เพราะมันไม่แพง ไม่กี่ร้อยบาท ตอนอยู่ในเมืองอีร์คุตสค์ Irkutsk หรือในมอสโคว มันใช้โอเคน่ะ ไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องปรกติ แต่บนรถไฟ .... เวลารถวิ่งใช้เน็ตกันแทบไม่ได้เลย ต้องรอให้จอดสถานีใหญ่ ๆ ถึงจะพอใช้งานได้ พอรถออกจากสถานีได้แป๊บเดียวก็ใช้ไม่ได้อีก ใครที่เดินทางคนเดียวอาจจะเหงาหน่อย เพราะเราเดินทางกันไกลและอยู่ในที่จำกัดเป็นเวลาหลายวัน ควรจะเตรียมหนังสือ เกมส์ ไพ่ หรือโหลดหนัง โหลดเพลงไว้ฟังระหว่างวัน จะได้ไม่เหงามาก แต่ถ้าพอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้ก็ make friend กับเพื่อนร่วมห้องไปเลย ได้เพื่อนใหม่อีกต่างหาก ส่วนเราดีหน่อยเพราะไปกัน 4 คน มีกิจกรรมหลักคือเล่นสลาฟกับนั่งคุยกันนี่ล่ะ ไม่เหงาเลยซักนิด
ประกันการเดินทาง
เรื่องนี้คือเรื่องที่สำคัญที่สุดเวลาเราเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะถ้าเราเดินทางไปเที่ยวเอง ไม่ได้ผ่านทัวร์ หลายคนที่เดินทางเองอาจลืมทำ เพราะมัวแต่วางแผนการเดินทางไม่มีใครคอยเตือน แต่บอกย้ำกันตรงนี้ว่า มันเป็นการซื้อประกันความเสี่ยงทั้งปวงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หลายครั้งเราคิดว่า เอาหน่า ไปเที่ยวแป๊บ ๆ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องซื้อก็ได้ และที่ผ่านมาไปเที่ยวก็ไม่เห็นจะมีอะไร กลับบ้านปลอดภัยดีทุกทริป ..... นั่นเพราะเราโชคดีไง แต่โชคก็ไม่อยู่กับเราเสมอไปน่ะ เพราะเราก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่หลังจากที่เดินทางบ่อยขึ้นมันก็ต้องเจอแจ๊คพ๊อตกันบ้าง "ภูมิแพ้ที่ฝรั่งเศส" "ลมพิษจนต้องเข้ารพ.ที่ญี่ปุ่น" ก็เจอมาแล้ว ไม่นับเรื่องอุบัติเหตุต่าง ๆ เรื่องกระเป๋าล่าช้า ดีเลย์อีก มีประกันไว้มันอุ่นใจกว่าแน่นอน
|
สำหรับคนที่ต้องเดินทางต่างประเทศบ่อยก็แนะนำให้ทำเป็นรายปีจะดีกว่า ทำครั้งเดียวคุ้มครองไปเลยปีนึง ถูกกว่าด้วยซ้ำ เราเลือกใช้ TIPINSURE เว็บไซต์ประกันภัยออนไลน์ของทิพยประกันภัย ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่ภาครัฐถือหุ้นใหญ่อยู่ ดังนั้น ปลอดภัยมั่นใจว่าเกิดอะไรไม่มีลูกเล่น เคลมได้แน่นอน แถมเบี้ยประกันยังถูกมาก ๆ ด้วย |
|
บางครั้งชอบจ่ายเบี้ยหัวแตกน่ะ 555 ซื้อทีล่ะทริป เพราะนึกได้ทีก็ซื้อที แตกย่อยแบบหลายแพ็คเกจ จนบางทริปลืมซื้อก็มี บางครั้งไปยาว ๆ แล้วลืม ไปซื้อเอากลางทางก็มี สุดท้ายมาคิดได้ว่าตัดความหงุมหงิมทั้งปวงออกไปให้หมด จ่ายครั้งเดียวแบบรายปีไปเลย เอาแบบคุ้มครองสูงสุด มันคือดีที่สุด เหมาะกับเราที่สุด ตอนนี้มีความคุ้มครองยาวไปถึงกลางปีหน้า แบบนี้ต้องเที่ยวให้คุ้ม อิอิ |
ซึ่งประกันรายปีกับ TIPINSURE รายปี ราคาเริ่มต้น Backpack 1 แค่ 1,585 บาท คุ้มครอง 1,000,000 บาท ไปจนถึงแพ็คเกจสูงสุด Backpack go 3 คุ้มครอง 3,000,000 ราคา 6,910 บาท โดยที่แต่ล่ะแผนมีความคุ้มครองต่าง ๆ กันไป เราก็สามารถเลือกแผนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ว่าอยากให้ครอบคลุมเรื่องการล่าช้าของเที่ยวบินหรือกระเป๋าเดินทาง คุ้มครองทรัพย์สินสูญหาย ค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่ อย่างไรได้ เข้าไปดูรายละเอียดความคุ้มครองได้ที่นี่ ==> https://www.tipinsure.com
|
|
ประกันการเดินทางแบบนี้เราสามารถซื้อกันง่าย ๆ ออนไลน์ทางมือถือ ไม่ยุ่งยากเหมือนก่อน เลือกแผนความคุ้มครอง ตัดบัตร แล้วเค้าจะส่งเมล์ยืนยันมาให้ตามนี้ เราก็ปริ้นท์ติดกระเป๋าไว้หรือถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือสะดวกดี
เอาเป็นว่าทั้งหมดนี้ คือการซื้อความคุ้มครองความเสี่ยงน่ะ ใครมีข้อสงสัยอะไรก็ลองโทรปรึกษากับทิพยประกันภัยกันก่อนเดินทางเพื่อความอุ่นใจกันได้น่ะ ที่ http://www.dhipaya.co.th หรือสายด่วน 1736 หรือซื้อประกันออนไลน์ง่ายแสนง่ายได้ที่ ===> https://www.tipinsure.com
รู้แบบนี้แล้วก็จัดซะ รับรองว่าเราพร้อมลุยทุกทริปด้วยความอุ่นใจแน่นอน
Recommend

เวลาเที่ยว
Date 30 Apr 2020
Nonstop Journey
Date 27 Apr 2020
ไปกันนะ : Pai Gun Na
Date 16 Dec 2019
ฉันกลัวที่แคบ
Date 16 Dec 2019
หนีงานไปเที่ยว
Date 25 Nov 2019
WTF : We Travel Forever
Date 25 Nov 2019
จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น
Date 22 Nov 2019
กินเพลิน เดินเที่ยว
Date 18 Nov 2019
ไปไง มาไง
Date 05 Nov 2019
GoGraph Japan
Date 05 Nov 2019
Scratch da world / สองเท้า-เกาโลก
Date 22 Oct 2019
Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Date 08 Oct 2019
Little Monster
Date 23 Sep 2019
Travelerspulse
Date 20 Sep 2019
แฟนพาเที่ยว / My Life My Travel
Date 02 Sep 2019
เที่ยวสบาย 9 Booking
Date 23 Aug 2019
Go Went Gone ไปไม่เว้น
Date 31 Jul 2019
สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Date 12 Jul 2019
6 August Journey
Date 12 Jul 2019
CoolBieЯe's Folio
Date 11 Jul 2019
LAZY COUP : เที่ยวเป็นคู่
Date 10 Jul 2019
แม่จ๋าๆพามาตาไปเที่ยวหน่อย
Date 10 Jul 2019
พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน
Date 04 Jul 2019