Back to Discover
ฮอกไกโด ฉันรักเธอ ...

แฟนพาเที่ยว / My Life My Travel
02 Sep 2019ฮอกไกโด ฉันรักเธอ ...
การ "ตกหลุมรัก" ใครสักคนไม่ใช่เรื่องง่าย
และการตกหลุมรักสถานที่สักสถานที่หนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ...ญีปุ่นเป็นทริปต่างประเทศทริปแรกที่เราไปด้วยกัน...แค่สองคน...
และเป็นประเทศที่เราสองคนรักที่สุด รักในความเรียบง่าย รักอาหารอร่อย รักธรรมชาติที่สวยงาม รักความคิ้วท์ของบ้านเมือง การกลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่เพราะพรหมลิขิตบันดาลชักพา ดลให้มาพบกันทันใด ..เหมือนความรักหรอกนะ แต่มันคือความตั้งใจกลับไปหาสิ่งที่เรารัก กลับไปหาความเป็นตัวตนของเรา ... พิมพ์คำนี้ออกไปก็เขินนะ คนอ่านอาจจะกำลังคิดว่า .. แหม่ๆ คิดว่าตัวเองเป็นคนญี่ปุ่นหรือไง >> แม้ไม่ใช่ แต่หน้าตาใกล้เคียง 555
แต่ในคำว่าความเป็น “ตัวตน” ของเราสองคน ... เราหมายถึง สถานที่ ที่เราอยู่แล้วรู้สึกสบายใจ กินอิ่มนอนหลับ ปลอดภัย มีความสุข ไม่ต้องพยายาม ไม่ต้องแพลนเยอะ ที่ไหนที่เราอยู่แล้ว ... รู้สึกว่ามันใช่ เราก็อยากกลับไปอีกซ้ำๆ
และครั้งนี้ทริปญี่ปุ่นของเรากับเกาะทางตอนเหนือของประเทศ “ฮอกไกโด ... ฉันรักเธอ”
ฮอกไกโดในช่วงปลายฤดูร้อน .. ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูใบร่วง เป็นช่วงที่มีเสน่ห์ไม่น้อย จะว่าไปก็มีเยอะจนถึงขั้นตกหลุมรักได้เลยหล่ะ อากาศกำลังดี ไม่ร้อน ไม่หนาว ไม่ต้องแบกเสื้อผ้าหนาๆ เดินเล่นได้ทั้งวัน และเมืองที่เราเที่ยวในทริปนี้มี Otaru, Sapporo, Hakodate, Noboribetsu, Lake Toya
DAY 1
เรามาเริ่มการเดินทางของทริปนี้กันด้วยเมืองเล็กๆ น่ารักๆ อย่างเมือง Otaru ซึ่งอยู่ห่างจากซัปโปโรประมาณ 30 นาที ใครจะมาเที่ยวเมืองนี้แบบ One day trip ก็สามารถทำได้ เพราะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่สำหรับเราสองคน ก็ยังคงเลือกที่จะนอนค้าง 1 คืน ตามประสาคนเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไฮไลท์ของโอตารุ ที่เราเห็นรูปกันบ่อย ๆ ก็คงเป็นคลองโอตารุ ที่ริมฝั่งคลองคือโกดังใหญ่ๆ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นร้านขายอาหาร และร้านขายของที่ระลึก
|
มาถึงเช็คอินกันเรียบร้อยก็ออกไปเดินเล่นกันเลย ด้วยความเป็นเมืองเล็กๆ ทำให้การเดินคือการเที่ยวที่ดีที่สุดสำหรับเมืองนี้ เราเริ่มจากการช้อปเบาๆ มันน่ารักห้ามใจไว้ไม่ไหวจริง เข้าร้านแรกก็ซื้อเลยจ้า |
หลังจากเผลอตัวไปช้อปจากร้านแรกมาแล้ว รู้สึกหมดพลัง ต้องไปเติมพลังกันก่อน เราสองคนเลือกเดินไปถนนฝั่งริมคลอง และไปแวะทานอาหารกันที่ โอตารุเดนุคิโคจิ (Otaru Denuki Allay) เป็นคล้ายกับศูนย์อาหาร มีร้านอาหาร หลายแบบ หลายแนวมากๆ และเราก็เดินดุ่มๆ เข้าไป 1 ร้าน เป็นร้านเล็กๆ ที่ดูแล้วไม่ต้องพิธีรีตองมากนัก และให้อารมณ์ความเป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น
ต้นสั่งข้าวหน้าปลา ซึ่งเป็นเมนูโปรดของนาง กินทุกที่ทุกร้าน กินแต่ปลาไหลกินจนไม่รู้ว่าอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่นมันก็อร่อยนะ |
|
||
|
ของนุ้ยเป็นชามนี้ค่ะ ข้าวโปะด้วยขาปู มันดูง่ายมาก แต่อร่อยนะ |
เป้าหมายต่อไปของเรา คือไป เดินเล่นกันต่อที่ถนน sakaimachi street ทุกสิ่งอย่างอยู่บนถนนเส้นนี้
นุ้ยเดินหน้ายิ้มหน้าบาน ยังไงฉันก็ต้องได้กินเค้ก เฮ้ เพราะเมืองโอตารุคือ ต้นกำเหนิด LeTao สาขาแรกของโลกนั่นเอง ... เข้าทางสายหวานแบบนุ้ยสุดๆ ไกลแค่ไหนฉันก็ไม่หวั่น ซึ่งบริเวณนี้เราจะเจอร้าน LeTao หลายสาขามากเลยนะ แต่ร้านที่เป็นสาขาแรกจะอยู่ตรงบริเวณหัวมุมถนน ตรงกันข้ามกับ Otaru Music Box Museum และนั่นก็เป็นอีกจุดที่ห้ามพลาด แต่ตอนนี้ของนุ้ยไปกินเค้กก่อนนะ
ร้านจะมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็นแนวของฝากซื้อกลับ แต่ถ้าต้องการนั่งทานในร้านให้ขึ้นไปที่ชั้น 2 นะคะ นี่คือเมนูซิกเนเจอร์ แม้ว่าเราจะเคยกินร้านในไทยแล้ว แต่ความฟินมันก็ยังต่างกัน มันหวาน มันหอม มันละมุน ละลายหายไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทำตาพริ้มๆ ยิ้มแก้มปริ |
|
กินเสร็จก็ได้ยินเสียงปู๊นๆ เอ๊ะ! แถวนี้ไม่น่าจะมีรถไฟน๊า แต่ปรากฏว่าคือเสียงพ่นไอน้ำของหอนาฬิกา Otaru Steam Clock Tower ตั้งอยู่หน้า Otaru Music Box Museum นั่นเอง ซึ่งทุกๆ หนึ่งชั่วโมง จะส่งเสียดัง ตามด้วยเสียงดนตรี
|
|
Otaru Music Box Museum (พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี) เปิดโลกกล่องดนตรีให้นุ้ยมาก สิ่งที่เห็นคือ มหาศาลแห่งกล่องดนตรีรูปแบบต่างๆ สวย น่ารัก หรูหรา น่าทึ่ง และมีความน่ากลัว ไม่ใช่กล่องดนตรีน่ากลัวนะ แต่กลัวว่าเราจะไปเดินสะดุดแล้วล้มลงมาทั้งแผง 555
|
|
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมีความสามารถในการเดินจนถึงมืดค่ำขนาดนี้ กลางคืนก็สวยไปอีกแบบ กับบรรยากาศที่สายฝนพรำลงมาเบาๆ
|
|
ในที่สุดเดินมาถึงคลองโอตารุ จริงๆ ไม่ได้ไกลหรอกนะ เพียงแค่ช่วงกลางวันคนเยอะมาก เราเลือกที่จะเดินผ่านไป แล้วค่อยย้อนกลับมา
DAY 2
วันนี้เราเริ่มออกเดินทางลงไปทางใต้ของเกาะฮอกไกโดไปทีละนิด โดยการเช่ารถขับไป เริ่มกันที่เมือง Noboribetsu เป็นเมืองออนเซ็นที่ดีที่สุดของฮอกไกโด ใครชอบแช่ออนเซ็นต้องไม่พลาด เมืองนี้เหมาะกับการพักผ่อนและการได้พักแบบเรียวกังยิ่งดีต่อใจ
จากที่พัก เราเดินกันไปที่หุบเขา Jigokudani หรือที่เรียกกันว่าหุบเขานรก เป็นหุบเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่ เราสามารถเดินเข้าไปด้านในถ่ายรูปได้ จะได้กลิ่นกำมะถันค่อนข้างชัดเจน แต่นั่นก็คือแร่ธาตุสำคัญของออนเซ็นที่นี่นั่นเอง
|
|
Day 3
วันนี้ปลายทางหลักของเราอยู่ที่ เมือง Hakodate แต่ระหว่างทางมันดึงดูดใจเราได้เสมอ และนี่ก็เป็นข้อดีของการเช่ารถขับ อยากไปไหน แวะจุดไหน เราสามารถเปลี่ยนแพลนได้ตลอดเวลา ชักแม่น้ำมา 5 สาย เพื่อจะบอกว่าระหว่างทางเราแวะกันที่ Lake Toya
ตอนแรกแค่จะแวะแบบแปบๆ ขับรถวนเล่นๆ สักชั่วโมงก็น่าจะพอ
แต่พอไปถึง ....เห้ย ! มันสวยมากเว่อร์ สวยสะกดความรู้สึกเราไว้ตรงนั้นจริงๆ แค่นั่งเฉยๆ นั่งดูทะเลสาป เราก็ยิ้มได้แบบไม่รู้ตัว อากาศสดใส ลมพัดเย็นสบาย หันไปมองคณะที่มาตั้งแคมป์ เรายิ่งใจสั่น แบบอยากอยู่ตรงนี้ อยากนอนที่นี่
|
|
แต่ก็ทำได้แค่ซึมซับบรรยากาศ ถ่ายรูปเล่นบ้าง นั่งชิวคาเฟ่ดูทะเลสาปบ้าง
|
|
จนรู้ตัวอีกที ถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางต่อไปยังเมืองปลายทางของเราในวันนี้ …Hakodate
เรามาถึง Hokodate ในช่วงเย็น ยังพอมีเวลาให้เที่ยวต่ออีกหน่อย เราเลือกไปกันที่ Mount Hakodate ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ เขาว่ากันว่า เป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับ 3 ของโลกเลยนะ การเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิว เราสามารถขับรถขึ้นไป นั่งรถบัส หรือแท็กซี่ก็ได้ แต่ไฮไลท์คือการนั่งกระเช้า Ropeway ขึ้นไป
|
|
ฟ้าสวยมาก อากาศดีมาก จะว่าไปก็เริ่มหนาวนิดๆ ลมพัดมาแต่ละที ก็ต้องคว้ามือคนข้างๆ มากุมไว้ |
|
||
|
ไฮไลท์คงเป็นมุมนี้ สวยสุด พีคสวย และคนก็เยอะสุดเช่นกัน เป็นมุมที่เราสามารถมองเห็นท่าเรือทั้งสองฝั่งทะเล |
Day 4
วันนี้เราจะเที่ยวฮาโกดาเตะกันแบบเต็มวัน แต่ขอเรียกว่าเกือบเต็มวันละกัน เพราะเป็นวันสบายๆ ก็เลยตื่นสายซะงั้น เริ่มวันนี้กันด้วยไปหาของอร่อยกินกันที่ตลาดปลาอาไซจิ (Asaichi Morning Market) เป็นตลาดปลาชื่อดัง เปิดตั้งเช้าตรู่เลยจ้า ถ้าใครอยากเป็นคนแรกของตลาดก็ไปเลยจ้าตอนตี 5 มาถึงที่นี่สิ่งที่ต้องกินคืออาหารทะเล มันสวรรค์มากๆ อร่อย สด และราคาถูกด้วย
ซึ่งจะมีหลายโซน ทางเดินแบบนี้ในห้องแอร์ ก็นั่งสบาย เดินดูเมนูและราคาหน้าร้านได้เลย |
|
||
|
แต่เราขอเข้าไปสัมผัสแบบตลาดจริงๆ ก่อน |
เพื่อความเข้าถึงวิถีไทยแบบลึกซึ้ง .. มันใช่ซะที่ไหนละ
เพื่อความเข้าถึงความเป็นตลาดปลาญี่ปุ่น ขอลองร้านแบบนี้ นั่งกันริมถนนนี้แหละ Japan Street food
แต่รสชาติภัตตาคารมากแก.... ตักเข้าปากคำแรก หันมองหน้ากัน มันเป็นอูนิที่อร่อยมาก หอมหวาน
จากวันนั้นจนวันนี้ พูดถึงฮอกไกโดให้ใครฟังทีไร จะมีอูนิ ร้านนี้เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ
และเราก็ต้องปิดท้ายกันด้วย แบบเมนูจัดเต็ม ให้อร่อยแบบเต็มๆ ท้อง บอกเลย ว่าอร่อยจริงๆ ไม่ได้โม้
|
|
อิ่มแล้วก็ไปต่อกันที่ หอคอยโกะเรียวกาคุ (Goryokaku Tower) เป็นหอคอยสูง 90 เมตร(รวมสายล่อฟ้าสูง 107 เมตร) เป็นรูปทรงห้าเหลี่ยม เราสามารถขึ้นไปด้านบนได้ มีค่าขึ้น 900 เยน เมื่อขึ้นไปด้านบนเราจะสามารถเดินดูวิวเมืองฮาโกดาเตะได้แบบ 360 องศาเลย
|
|
นี่คือรูปป้อมดาว 5 เฉก หรือ ป้อม Goryokaku นั่นเอง |
|
ออกมาจากหอคอยเราเห็น ร้านเบอเกอร์ที่ที่สีสันสดใส ชื่อว่า Lucky Pierrot เคยมีคนบอกว่าให้ไปลองชิม ซึ่งปกติเราไม่ใช่สายนี้สักเท่าไหร่ แต่ไหนๆ ก็มีคนแนะนำมา ก็ลองสักหน่อย เดี๋ยวจะไปคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง
หน้าตาดูธรรมดามาก แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันอร่อยมาก และถูกมากด้วย ในฮาโกดาเตะจะมีร้านนี้อยู่หลายสาขาเลย และจะบอกว่าเรากินไป 2 สาขาจ้า ก็มันอร่อยและถูกนี่นา
มาถึงอีกจุดที่พลาดไม่ได้ Kanemori Red Brick Warehouse โกดังอิฐแดงคาเนโมริ
อารมณ์ทริปนี้คล้ายตามรอยหนังเล็กๆ 555 ก็เราชื่อเหมือนนางเอกในเรื่องเนอะ ..
เป็นบรรยากาศโกดังอิฐแดงใหญ่ๆ 5 หลัง ริมทะเล ถ่ายรูปสนุกเลยทีเดียว
เดิมทีเป็นโกดังสินค้า แต่ในปัจจุบัน โกดังก็ถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร
|
|
เราเดินเล่นกันไปเรื่อยๆ เพื่อไปยังจุดถ่ายรูปที่เห็นกันบ่อย เป็นเนินถนนย่านโมโตะมาจิ ซึ่งจากเชิงเขาฮาโกดาเตะ มีถนนลาดชัน 19 สายมุ่งตรงสู่ท่าเรือ เราก็เดินไปเรื่อยๆ จนเจอถนนเส้นที่เราคิดว่าว่าใช่
Day5
วันนี้เราต้องกลับเข้าซัปโปโรแล้ว แต่เช้านี้ขอแวะไปนั่งชิวคาเฟ่สักหน่อยละกัน เรากลับไปที่จุดเดิมจุดสุดท้ายของเมื่อวาน คือ เนินถนนย่านโมโตะมาจิ เพราะเมื่อวานเราแอบเล็งร้านคาเฟ่ไว้ร้านนึง แต่มันมืดแล้ว ก็เลยก็ยกยอดมาเป็นวันนี้
ร้านนี้ค่ะ ชื่อว่า Hakodate Motomachi Coffee เราไปกันตั้งแต่ร้านเปิดเลยทีเดียว ทำให้ทั้งร้านมีแค่เราสองคน สายสโลว์ไลฟ์ สายคาเฟ่ อยากให้ลองแวะ
|
|
เราใช้เวลาช่วงเช้าหมดไปกับคาเฟ่แห่งนี้ และถ่ายรูปเล่นบนเนินถนนอีกนิดหน่อย กลับเข้าถึงซัปโปโร ก็เกือบค่ำแล้ว บวกกับบรรยากาศที่ฝนตกหนัก ทำให้เราวันที่ 5 ของเราเป็นวันพักผ่อนรีบนอนเร็วกว่าทุกๆ วัน
Last Day
วันเที่ยววันสุดท้ายของทริปนี้ค่ะ เริ่มกันจากตื่นสายๆ ในวันฝนตกมุ่งหน้าไปสู่ โรงงานช็อคโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ(Shiroi Koibito Park) เป็นโรงงานของบริษัท Ishiya ช็อคโกแลตเจ้าดัง ที่พวกเราชอบซื้อเป็นของฝากกัน ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงคุกกี้นมบางๆ กรอบๆ ไส้ครีม หรือช็อคโกแลต มีวางขายทุกสนามบินอันนั้นเลย ที่นี่พื้นที่กว้างขวางมากใช้เวลาอยู่ได้ทั้งวันเลยนะ แต่เราอยู่แค่ 2-3 ชม. ด้านนอกอาคารจะมีพื้นที่มุมสวย ให้ถ่ายรูปเพียบ ส่วนด้านในจะมีทั้งร้านอาหาร ขายของฝาก กิจกรรม Workshop
|
|
มาถึงที่แล้วเราจะไม่ลองชิมกันสักหน่อย มันจะรู้สึกไม่ให้เกียรติสถานที่ 555
ถ้าพลาดก็บ้าแล้วเมนูของหวานนี่โปรดมาก ถ้าหากต้นไม่ให้กิน มีร้องไห้แน่ๆ จัดเบาๆ แค่ให้พอหายยาก มีเมนูให้เลือกเยอะมาก กินแล้วก็ฟิน มีความสุข กลับบ้านได้
|
|
ในช่วงเที่ยงเราไปแวะไปกินราเมงกัน
เมืองซัปโปโร เป็นเมืองต้นกำเนิดราเมงมิโซะ มีร้านดังๆ ติดอันดับเยอะมาก แต่เราเลือกไปร้านนี้ค่ะ Sapporo Junren ขับออกจากตัวเมืองไปนิดนึง คนที่มาทานล้วนแต่เป็นคนพื้นที่ และไม่ผิดหวังเลยค่ะ อร่อยมาก ชามใหญ่มาก อิ่มมาก
|
|
ตกบ่ายอากาศเริ่มดีขึ้นเราไปกันที่ ภูเขาโมอิวะ (Mount Moiwa) เป็นจุดชมวิวกลางเมืองซัปโปโร เป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ทำให้เห็นวิวเมืองสวยมาก ช่วงกลางคืน คงสวยน่าดู แสงไฟระยิบระยับแน่นอน
|
|
ตกเย็นเราก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ตามจุดต่างๆ ช้อปปิ้งบ้าง แวะทานอาหารบ้าง
ที่เห็นในรูปคือ ทีวีทาวเวอร์ซัปโปโร (Sapporo TV Tower)
ชอบแบบนี้ ชอบเดินไปเรื่อยๆ ดูเมือง ดูคน และญีปุ่นเป็นเมืองที่ปลอดภัย เราเดินเล่นได้ชิว แบบไม่ต้องคอยระวังตัวมากนัก |
|
||
|
เราเดินมาจนถึง ศาลาว่าการเก่า เมืองซัปโปโร ชอบจัง ช่วงเวลาแบบนี้มันสวยมาก |
ทริปจบลงแล้ว แต่ความสุขยังไม่จบ
เราว่าเสน่ห์ของการเดินทาง ... คือการไปเจอเรื่องราวใหม่ๆ
ความสุขในการเดินทางของแต่ละคน..ต่างกัน สำหรับเราสองคน เราชอบไปเรียนรู้ที่ใหม่เพื่อเปิดโลกให้ตัวเอง และชอบกลับไปที่เดิมเพื่อกอรปเก็บความสุขที่เคยเจอให้มากขึ้นเรื่อยๆ
ฮอกไกโดก็เช่นกัน เป็นครั้งแรกกับการไปเยือนเมืองนี้ แต่ถ้าคิดว่านี่คือส่วนหนึ่งของญี่ปุ่น มันคือญี่ปุ่นครั้งที่เท่าไหร่ นับนิ้วมืออาจจะไม่พอ
อยากให้ทุกคนออกมาเดินทางเหมือนเราสองคน ...มาเปิดประสบการณ์ เปิดมุมมอง มาเก็บความสุข และความทรงจำร่วมกัน และอาจจะทำให้เรารู้จักตัวเอง และคนข้างๆ มากขึ้น
ฮอกไกโด..ฉันรักเธอ
Recommend

เวลาเที่ยว
Date 30 Apr 2020
Nonstop Journey
Date 27 Apr 2020
ไปกันนะ : Pai Gun Na
Date 16 Dec 2019
ฉันกลัวที่แคบ
Date 16 Dec 2019
หนีงานไปเที่ยว
Date 25 Nov 2019
WTF : We Travel Forever
Date 25 Nov 2019
จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น
Date 22 Nov 2019
กินเพลิน เดินเที่ยว
Date 18 Nov 2019
ไปไง มาไง
Date 05 Nov 2019
GoGraph Japan
Date 05 Nov 2019
Scratch da world / สองเท้า-เกาโลก
Date 22 Oct 2019
Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Date 08 Oct 2019
Little Monster
Date 23 Sep 2019
Travelerspulse
Date 20 Sep 2019
แฟนพาเที่ยว / My Life My Travel
Date 02 Sep 2019
เที่ยวสบาย 9 Booking
Date 23 Aug 2019
Go Went Gone ไปไม่เว้น
Date 31 Jul 2019
สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Date 12 Jul 2019
6 August Journey
Date 12 Jul 2019
CoolBieЯe's Folio
Date 11 Jul 2019
LAZY COUP : เที่ยวเป็นคู่
Date 10 Jul 2019
แม่จ๋าๆพามาตาไปเที่ยวหน่อย
Date 10 Jul 2019
พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน
Date 04 Jul 2019