Back to Discover
เที่ยวญี่ปุ่นให้กว้างขึ้นด้วยการขับรถเที่ยวเอง แล้วจะเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

GoGraph Japan
05 Nov 2019ถ้าพูดถึง ตัวตน ของเพจ Go!Graph Japan คือคนที่ชอบเที่ยวญี่ปุ่น แสวงหาที่เที่ยวญี่ปุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ ด้วยประสบการณ์ที่เคยเดินทางทั่วญี่ปุ่นกว่า 40 ครั้ง เราเลยมีสไตล์การเที่ยวที่ลึกกว่าการเที่ยวปกติ การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ มันไม่ตอบโจทย์สไตล์การเที่ยวแบบเรา เพราะมักจะติดปัญหาตรงรอบเวลา หรือระยะทาง บางครั้งต้องรอรถบัส 1 ถึง 2 ชม.เลยทีเดียว ทำให้แผนการเดินทางเรามีข้อจำกัดอยู่เยอะ ช่วงหลังๆ เราเลยลองเช่าขับรถดู จนติดใจ เพราะตอบโจทย์การเที่ยวที่มีอิสระในการวางโปรแกรมเที่ยวแบบเรา หลังๆ เราจึงเลือกการเดินทางด้วยการเช่ารถขับเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เราเลยอยากแชร์วิธีเตรียมตัว และเส้นทาง ที่แนะนำสำหรับคนชอบเดินทางแบบเรามาฝาก
ทำไมเราถึงติดใจการขับรถญี่ปุ่น เรามาบอกข้อดีของการขับรถเที่ยวเองเลยว่ามีอะไรบ้าง
1.เที่ยวแบบมีอิสระมากขึ้นมากกกกกกก ลืมตารางเวลารถไฟ รถบัสไปได้เลย เราอยากไปไหน กลับเมื่อไร กี่โมงเรื่องของเรา แต่เราก็ต้องดูเองด้วยว่าแต่ละวันควรขับเท่าไร เดี๋ยวจะกลายเป็นแผนขับรถ มากกว่าได้เที่ยว
2.ไปที่ยากๆ ได้ง่ายขึ้นมาก บางที่ต้องต่อรถบัสแล้วรอบน้อยมาชั่วโมงละเที่ยว หรือหมดเร็ว ทำให้เวลาเที่ยวเราน้อยมาก หรือต้องต่อแท็กซี่ แล้วขากลับกลับไม่ได้แบบนี้ เพราะงั้นการขับรถเที่ยวเลยเป็นตัวเลือกที่ดี
3.คำนวนดีๆ ประหยัดกว่าการซื้อพาสรถไฟ บางคนคิดขับรถต้องแพงแน่ๆ แต่จริงๆ ถ้าหารคนลงตัว เช่น 3 คน รถ 1 คัน ราคาอาจประหยัดกว่าเที่ยวด้วยรถไฟเกือบ 30% เลยด้วยซ้ำ! ทางด่วนที่ว่าแพง เขามีบัตรเหมาทางด่วน เหมือนพาสรถไฟเลย แบบคุ้มมากๆ
เริ่มอยากขับรถเที่ยวญี่ปุ่นแล้วซินะ แล้วการเตรียมตัว มีอะไรบ้าง
1.ต้องมีใบขับขี่สากลที่แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งก็ทำได้กรมขนส่งนั่นแหละ แค่มีใบขับขี่แบบ 5 ปี ก็ไปทำได้แล้ว อ่านรายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียมที่ https://www.dlt.go.th/th/driving-license/view.php?_did=90
และข้อควรระวังคือเมื่อทำแล้วเช็คว่ามีตราประทับที่ช่อง B ด้วยนะ หมายถึงอนุญาตให้ขับรถแบบ 4 ล้อไม่เกิน 8 ที่นั่งได้ ขอให้เช็คก่อนเมื่อได้ใบขับขี่สากล
2.เริ่มต้นการจองรถ การจองรถญี่ปุ่นทำได้ง่ายมาก เพราะมีหลายบริษัท หลายตัวเลือก มีหลาบเว็บเช่า Nissan, Toyota, Time Rent a Car, Nippon Rent a Car, Tocoo ซึ่งเว็บมีการแนะนำวิธีเช่ารถขับให้อย่างง่ายแล้ว มีภาษาอังกฤษ และบางเว็บมีภาษาไทยแล้ว
เมื่อเริ่มจองเราต้องเตรียมข้อมูลอะไรก่อนจองบ้าง?
- จุดรับรถ คืนรถ เวลา ซึ่งก็ดูจากแผนการเดินทางของเราเนี่ยแหละว่าอยากไปไหนบ้าง
- ชนิดของรถ เรื่องนี้สำคัญมาก ที่หลายคนอาจพลาด คือ ต้องคำนวนขนาดกระเป๋าด้วย บางทีรถเขียน 4 ที่นั่งแต่พอไปจริงๆ นั่งได้แค่ 3 เพราะเจอกระเป๋าใหญ่ 3 ใบ เพราะฉะนั้นคำนวนขนาดรถให้ดีก่อนจอง
- ถ้ามีเด็กเล็ก ต้องจองที่นั่งคาร์ทชีทสำหรับเด็กด้วย ถ้าไม่มีอาจโดนจับได้
- ตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น ETC Card หมายถึงบัตรทางด่วน หรือ บัตรเหมาทางด่วนที่จะช่วยประหยัดเงินไปเยอะ ควรไปศึกษาให้ละเอียดก่อนจอง
- การจ่ายเงินสามารถจ่ายได้เลย หรือ จ่ายที่ศูนย์บริการก็ได้
- เมื่อทำการจองเสร็จแล้ว เวลาที่ไปรับรอง เตรียมเอกสารการจอง ต้องปริ้นออกจากเมลล์ ใบขับขี่สากล ใบขับขี่ไทยแต่ไม่ค่อยตรวจ แต่พกไปก็ได้
ประกันรถเช่าล่ะ? นอกจากประกันการท่องเที่ยวที่เราควรซื้อแล้ว การขับรถก็ควรซื้อประกันไว้ด้วยเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายซ่อมรถญี่ปุ่นแพงจริงๆ ซึ่งการซื้อประกันก็ซื้อได้จากเว็บที่จองรถนั้นแหละ แต่จะต่างกับไทย เพราะมีประกันหลายตัว จะมีสองตัวหลักๆ คือ CDW และ NOC ซึ่งจะมีให้เลือกตอนเราเช่ารถ หรือไปซื้อเพิ่มตอนรับรถก็ได้
CDW คือ Collision Damage Waiver ก็คือเป็นการคุ้มครองผู้เช่ารถ ให้ไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก คือปกติรถจะมีประกันให้เราอยู่แล้ว เมื่อเกิดอุบัติเหตุบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายในการซ่อมส่วนใหญ่ แต่เราต้องเสียเพิ่มด้วย ประมาณ 50,000-100,000 เยน ซึ่งถ้ามีประกัน CDW จะไม่ต้องเสียส่วนนี้
NOC คือ Non Operation Charge ประกันเสียโอกาสทางธุรกิจ ก็คือเสียค่าบริษัทเสียโอกาสระหว่างซ่อมรถนั้นเอง ซึ่งถ้ามีอุบัติเหตุก็ต้องเสียส่วนนี้อยู่ดี ถ้าไม่ซื้อประกันจะเสียอยู่ที่ 20,000 ถึง 50,000 เยนแล้วแต่กรณี
*ประกันจะไม่ครอบคลุมถ้าเราเป็นคนทำผิดจราจร เมาแล้วขับ ไม่มีใบขับขี่ และไม่แจ้งความตำรวจ สำคัญที่สุดเลยคือการแจ้งความตำรวจไม่ว่ากรณีเล็กหรือใหญ่ ไม่มีประกันไม่รับผิดชอบจ้า
เพราะฉะนั้นทำไปเหอะไม่เสียหาย ตกเฉลี่ยค่าประกันรถวันละประมาณ 1700 เยน
พร้อมขับรถแล้ว? งั้นเรามาบอกข้อระวังต่างๆ ที่เราอยากเตือนดีกว่า
1.ขับโดยไม่มีใบขับขี่สากล! ห้ามเด็ดขาด! ส่วนมากโดนแบบคือเพื่อนคนที่มีใบขับขี่ง่วง เลยสลับอีกคนแต่ไม่ได้ทำใบขับขี่สากลมา ถ้าโดนตรวจ จับ นี่โดนยึดของทุกอย่าง ขึ้นศาล เข้าคุกเลยจ้า ห้าม ทำไปเหอะ ใบขับขี่ ง่าย อย่าคิดว่าไม่เป็นไร
2.กินเหล้าแล้วขับ! นี่ก็ไม่รู้ทำไมคนไทยถึงคิดว่ากินนิดเดียวขับได้ไม่เป็นไร แต่ญี่ปุ่นโดนจับ ไม่ว่าจะน้อยมาก คุณดื่มมาแล้วขับ ผิด! เข้าคุก ขึ้นศาล และ! คนที่นั่งมาด้วยก็ถือว่าผิด เพราะไม่ห้ามคนดื่มขับ! กินเหล้าห้ามขับ ไม่ว่าจะที่ใดบนโลกนี้!
3.ชนคน อันนี้เรื่องใหญ่มาก ระวังคนและจักรยานให้มาก คนมาก่อนรถเสมอ! เวลาจะเลี้ยวซ้ายให้ระวังดูรอบๆก่อน คนจะข้ามทางม้าลายหยุดเลยครับ ไม่ใช่เร่ง ให้คนเดินผ่านไปก่อน
4.ป้ายหยุด คือ หยุดทันที 3-4 วิ แล้วไปต่อ ปัญหาคือป้ายนี่ภาษาญี่ปุ่น เป็นแค่สามเหลี่ยมสีแดงบางทีไม่เข้าใจ หรือมีแค่ภาษาญี่ปุ่นที่พื้นถนนเท่านั้น แต่สังเกตง่ายๆคือ เป็นขีดเส้นทึบด้านหน้าก่อนถึงแยก นั้นหมายถึงหยุดก่อนขับต่อ
5.เรื่องความเร็วโดยปกติการจำกัดคือในเมือง 50km ถนนใหญ่ 80km ทางด่วน 100 km แต่บางทีก็งงว่าควรขับเท่าไรดี ง่ายๆเลย ขับตามคนญี่ปุ่นไปครับ เร็วก็เร็วเท่าใครไป ช้าก็ช้าเท่าเขา ง่ายๆเลย
6.แยกไฟแดงหลายที่ไม่มีไฟเลี้ยว วิธีคือ เราต้องรอรถทางหลักทางตรงไปหมดก่อนถึงเลี้ยวได้ เหมือนทุกถนนเวลาเลี้ยวเข้าซอย เราต้องรอทางเอกไปให้หมดก่อนเสมอถึงเลี้ยวได้ และที่ญี่ปุ่นไม่เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดให้รอเขียวเท่านั้นถึงจะเลี้ยวซ้ายได้ และระวังคนข้ามถนนเสมอเพราะไฟเขียวคนข้ามจะพอดีกับรถเลี้ยวซ้ายได้เสมอ
ข้อควระวังในการขับรถที่ญี่ปุ่นก็ประมาณนี้ครับ เหมือนจะเยอะ แต่พูดจริงๆ การขับรถที่ญี่ปุ่นคือสวรรค์มาก งั้นเราคงไม่ขับรถถึงเกือบ 10 เที่ยวหรอก และยังคงขับรถเที่ยวญี่ปุ่นเรื่อยๆอีกแน่นอน การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นทำให้เห็นญี่ปุ่นได้กว้างขึ้นอีกมากมาย
พูดข้อควรระวังการขับรถแล้วจะไปญี่ปุ่นจะขับรถเส้นทางไหนบ้างดีล่ะ เราจะมาแนะนำเส้นทางสุดสวยที่เราเคยขับมาแล้ว 5 เส้นทางละกัน แต่เส้นงาม แบบควรไปให้ได้ซักครั้ง!!
1.Fuji 5 Lakes, Yamanashi เส้นทางสุดสวยของญี่ปุ่น ทะเลสาบวิวเขาฟูจิทั้ง 5 ของจังหวัดยามานาชิ ปกติคนไทยก็ชอบไปเที่ยวกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะทะเลสาบคาวากุชิโกะ แต่ยังมีอีก 4 ทะเลสาบที่สามารถชมฟูจิได้สวยๆ การที่เราขับรถเที่ยว ทำให้เราสามารถไปทะเลสาบทั้งหมดได้โดยง่าย สามารถแวะถ่ายรูปวิวฟูจิในมุมใหม่ๆ ได้มากขึ้น เป็นเส้นทางขับรถสนุกวิวสวย ที่แนะนำมาก |
|
2.Japan Alps, Nagano เส้นทางเขาเจแปนแอลป์ เส้นทางนี้ความน่าสนใจเลยคือเหมือนขับอยู่ในเทือกเขาแถวยุโรป แล้วยิ่งบางเมืองอย่างฮาคุบะ ทั้งเมืองจะมีแต่บ้านสไตล์ยุโรปแล้วถูกล้อมดูเทือกเขาหิมะ เหมือนอยู่สวิสเลย ไม่บอกว่าญี่ปุ่นก็ไม่มีใครรู้จริงๆ เส้นทางนี้เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางธรรมชาติ อย่าง คามิโคจิ อุทยานแห่งชาติที่เราบอกเลยว่าควรมาให้ได้ซักครั้ง แล้วขับรถไปตามแนวเทือกเขาในจังหวัดนากาโนะ อีกเส้นทางที่น่าประทับใจ |
|
3.Miky Road, Kumamoto - Aso เส้นทางขับรถแห่งคิวชู ถนนลอยฟ้าแห่งเมืองอะโซะ จังหวัดคุมาโมโต้ เป็นเส้นทางวิ่งบนแนวเขาอะโซะที่ล้อมรอบตัวเมืองอะโซะ สามารถมองเห็นเมืองได้ทั้งเมืองบางเวลาอาจมีหมอกขึ้นมาทำให้ดูเหมือนถนนแห่งนี้ลอยฟ้าอยู่ สวยจนใช้เป็นฉากในหนังของจิบลิเลยทีเดียว แล้วที่ถยยแห่งนี้เรียกว่า Milky Road เพราะตลอดเส้นทางจะเต็มไปด้วยฟาร์มวัว ระหว่างขับไปก็จะเห็นวัวตลอดทาง เพราะงั้น นม และเนื้อวัวที่นี้อร่อยมากๆ อย่าให้พลาด แล้วก็ขับไปเรื่อยๆ จนถึงใกล้ภูเขาไฟอะโซะ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ยังคงมีควันพุ่งประทุอยู่ แต่วิวที่นี้มันอลังการไม่ควรพลาดที่จะมาจริงๆ |
|
4.Zao Road, Sendai เส้นทางสวยๆขับสบายจากเมืองเซนได ภูมิภาคโทโฮคุ เส้นทางนี้จะเน้นชิลๆ แวะออนเซนแถวซาโอะ ที่เขาว่ามีสรรพคุณเรื่องรักษาบาดแผลให้สมานตัวเร็วขึ้นตั้งแต่อดีต แวะหาน้องสุนัขจิ้งจอก แล้วก็วิ่งขึ้นไปชมวิวทะเลสาบในปากปล่องภูเขาไฟซาโอะ ระหว่างเส้นทางที่ขับรถไปถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเขาจะเปลี่ยนสีเป็นส้ม เหลือง แดง เขียวสลับกัน เป็นเส้นที่น่ามามากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี |
|
5.Nakasendo, Nagoya - Gifu ขับรถเที่ยวตามเส้นทางเดินโบราณสมัยเอโดะ เส้นทางนี้ความน่าสนใจคือ ตลอดเส้นทางจะมีหมู่บ้านโบราณที่คนใช้สัญจรตั้งแต่อดีตและมาแวะพักตามหมู่บ้านต่างๆ มีมากกว่า 20 หมู่บ้านเลยทีเดียวที่ยังคงมีบ้านรูปแบบเก่าสมัยเอโดะ โดยเฉพาะหมู่บ้าน มาโกเมะ เป็นหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่แนวเขา ทำให้เราสามารถเห็นวิวจากด้านบนมองลงมาจะเห็นทุ่งนากับหมู่บ้าน ในหมู่บ้านก็มีร้านค้าร้านอาหาร และโรงแรมเล็กๆ สำหรับแวะพัก เราจะเห็นคนฝรั่งชอบมาเดินเทรคกิ้งตามเส้นทางนี้กันตามแนวเดินทางของสมัยเอโดะ เป็นอีกเส้นทางสวยที่ไม่น่าพลาด |
|
และนี้คือตัวอย่างเส้นทางขับรถที่เราแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลย รับรองว่าฟิน การขับรถเที่ยวญี่ปุ่นทำให้เราสามารถไปค้นหาที่เที่ยวญี่ปุ่นได้แบบกว้างขึ้นอีกเป็นกอง ไปได้ลึกขึ้น สนุกยิ่งขึ้น ทำให้รู้ว่าญี่ปุ่นมีที่น่าเที่ยวอีกเยอะมากกว่าที่เราคิด
Recommend

เวลาเที่ยว
Date 30 Apr 2020
Nonstop Journey
Date 27 Apr 2020
ไปกันนะ : Pai Gun Na
Date 16 Dec 2019
ฉันกลัวที่แคบ
Date 16 Dec 2019
หนีงานไปเที่ยว
Date 25 Nov 2019
WTF : We Travel Forever
Date 25 Nov 2019
จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น
Date 22 Nov 2019
กินเพลิน เดินเที่ยว
Date 18 Nov 2019
ไปไง มาไง
Date 05 Nov 2019
GoGraph Japan
Date 05 Nov 2019
Scratch da world / สองเท้า-เกาโลก
Date 22 Oct 2019
Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Date 08 Oct 2019
Little Monster
Date 23 Sep 2019
Travelerspulse
Date 20 Sep 2019
แฟนพาเที่ยว / My Life My Travel
Date 02 Sep 2019
เที่ยวสบาย 9 Booking
Date 23 Aug 2019
Go Went Gone ไปไม่เว้น
Date 31 Jul 2019
สะพายกล้องท่องเที่ยว กับ มาเรีย ณ ไกลบ้าน
Date 12 Jul 2019
6 August Journey
Date 12 Jul 2019
CoolBieЯe's Folio
Date 11 Jul 2019
LAZY COUP : เที่ยวเป็นคู่
Date 10 Jul 2019
แม่จ๋าๆพามาตาไปเที่ยวหน่อย
Date 10 Jul 2019
พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน
Date 04 Jul 2019