เวลาไปเที่ยว ยังยืนนิ่งๆ ชูสองนิ้วถ่ายรูปกันอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ ระวังตกรุ่นนะจ๊ะ  จากนี้ไป จะเป็นยุคแห่งการเที่ยวชิคๆ พิฆาตกันด้วยภาพปังๆ กันแล้วครับคุณผู้ชม มาครับ ถ้าคุณมีไฟในการโพสต์ท่า มีความกล้าที่จะแต่งตัวเพื่อได้ภาพปังๆ บอกเลยว่าจริตเราตรงกัน

สวัสดีทุกคน พวกเราคือ "หนีงานไปเที่ยว" คู่รัก Travel Blogger ที่หลงใหลในคัลเจอร์ ความสุขของเรา คือการได้ถ่ายภาพ การได้เรียนรู้เรื่องราว การได้เสาะหาของอร่อย การได้ชอปปิ้งของพื้นเมือง และเอาเรื่องราวการท่องเที่ยวมากระตุ้นให้พวกคุณออกเที่ยวไปด้วยกัน!! นี่ละตัวตนที่พวกเราเป็น

วันนี้ขอถือโอกาสแชร์เรื่องราวจากทริปๆ นึง ที่ประทับใจเรามิรู้ลืม เป็นเรื่องราวการท่องเที่ยวไปยังเมือง “ชัยปุระ (Jaipur)” อาณาจักรโบราณสีชมพูแห่งอินเดีย แต่จะไปแบบธรรมดาๆ ก็ไม่ใช่เราน่ะสิ ทริปนี้เราเที่ยวกันแบบสวยๆ แพงๆ อยากรู้ไหมทำไง? มา!! เราจะเฉลยวิธีให้ฟังกับ “เคล็ดลับเที่ยวชัยปุระ (Jaipur) ให้ปัง อย่างมหารานี” ครับผม!!

ทำไมต้อง “ชัยปุระ (Jaipur)”

Jaipur ออกเสียงว่า “จัยปูร์” คนไทยเรียกว่า “ชัยปุระ” ส่วนคนอินเดีย... เขาฟังไม่ออกนะ 555 ชื่อนี้เรียกกันมานานแล้ว (เลยตามเลยละกัน) เมือง Jaipur เป็นเมืองเอกของรัฐราชสถาน (Rajastan) เมืองนี้มีฉายาฟรุ้งฟริ้งว่า “เมืองสีชมพู” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนสามเหลี่ยมทองคำของการท่องเที่ยวอินเดีย ซึ่งประกอบด้วย Jaipur, Deli และ Agra

สำหรับเรา Jaipur คือตัวแทนของอินเดียยุคเก่า ที่รุ่มรวยไปด้วยสถาปัตยกรรมสุดวิจิตอลังการ ประวัติศาสตร์ จิตวิญญาณ และวิถีชีวิตอันจี๊ดจ๊าด เข้มข้นวุ่นวาย สไตล์อินเดีย อธิบายแบบนี้ไม่รู้เห็นภาพไหม แต่ค่อยๆ ดูและซึมซับกับบทความนี้ก็แล้วกัน

1.จะเที่ยวให้ปัง โลเคชั่นมันต้องโดน : ณ จุดๆ นี้ คุณคิดว่าการถ่ายภาพตรงป้ายรถเมล์ กับถ่ายภาพตรงระเบียงพระราชวัง ภาพไหนมีโอกาสปังมากกว่ากันล่ะ? ฉันใดก็ฉันนั้น การจะเที่ยวให้ได้ภาพปังๆ เราต้องเลือกที่เที่ยวให้เป็น สถานที่เที่ยวส่วนใหญ่ในเมือง “ชัยปุระ (Jaipur)” นั้น จะเป็นป้อมปราการ, ปราสาทและพระราชวัง ที่แม้จะสร้างมานานหลายร้อยปี แต่ความวิจิตรอลังการนั้นยังอยู่แบบเต็มๆ ที่เที่ยวแนะนำได้แก่...

Amber Fort and Palace (พระราชวังแอมเบอร์) : เป็นป้อมปราการตั้งโดดเด่นอยู่บนผาหินเหนือทะเลสาบ Maota มองเห็นได้จากระยะไกลเพราะมีแนวกำแพงที่ใหญ่และแน่นหนาคล้ายกำแพงเมืองจีน (แต่ขนาดเล็กกว่า) ด้านในมีพระราชวังที่เคยเป็นที่ประทับของราชปุตมหาราชาและพระราชวงศ์

Panna Meena Ka Kund Stepwells : นี่คือบ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับ Amber Fort นั่งรถราวๆ 5 นาที บ่อน้ำโบราณแห่งนี้เป็นหลักฐานที่แสดงถึงภูมิปัญญาของคนอินเดียโบราณ ในการทำบันไดแคบๆ เป็นแนวทแยงซ้าย-ขวา จากปากบ่อลงไปด้านล่างของบ่อ เป็นพิกัดที่เราได้รูปสวยๆ มาเยอะเชียว

City Palace of Jaipur : ถ้าอยากรู้ประวัติศาสตร์และเรื่องราวของ Jaipur อย่างถ่องแท้ ก็ไม่ควรพลาดจะมาเที่ยวชม City Palace of Jaipur  พระราชวังแห่งนี้ได้รับการดูแลจากรุ่นสู่รุ่นโดยมหาราชาองค์อื่นๆ ของ Jaipur นี่คือพระราชวังที่ออกแบบอย่างวิจิตรสวยงาม ด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างราชปุตกับโมกุล

Nahagarh Fort : หากอยากชมวิวเมือง Jaipur ยามเย็น คงไม่มีที่ไหนสวยไปกว่าที่ Nahagarh Fort อีกแล้ว เพราะด้านบนนี้จะเป็นจุดที่เห็นวิวเมือง Jaipur ได้อย่างชัดเจน ยิ่งในวันที่ฟ้าเคลียร์ไร้หมอกควัน จะยิ่งชมพระอาทิตย์ตกได้สวยมากๆ

Hawamahal (พระราชวังแห่งสายลม) : นี่คือสุดยอดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของเมือง Jaipur อาคารสูง 5 ชั้น วิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เปอร์เซียผสมโมกุลที่ถอดแบบรูปทรงมาจากมงกุฎของพระนารายณ์ หากอยากชมวิว Hawa Mahal แบบเต็มๆ ตา ให้ขึ้นมาที่ดาดฟ้าของตึกที่อยู่ตรงข้ามกับ Hawa Mahal ที่นี่จะมีร้านกาแฟ 2 ร้าน เลือกเอาได้เลยครับ ว่าชอบมุมไหน

Royal Gaitor Tumbas : ที่นี่เป็นทั้งอนุสรณ์สถาน และสุสานหลวง ของเหล่ามหาราชาผู้เคยปกครองนคร Jaipur ภายในจะเห็นหมู่ศาลายอดทรงโดมที่ทำจากหินอ่อนหรือหินทราย พร้อมลวดลายการออกแบบที่วิจิตสวยงาม แสดงให้เห็นทักษาของช่างฝีมืออินเดียโบราณได้เป็นอย่างดี ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาไม่เยอะ (แต่คนอินเดียมาถ่าย Pre-Wedding กันเยอะ 555) จัดว่าเป็น Hidden Gem ของ Jaipur เลยก็ว่าได้

2.คอสตูม คอสเพลย์ ขนมาให้เต็มพิกัด : ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง แต่ถ้าจะให้งามอย่างแรง คอสตูมต้องมาเต็มนะจ๊ะนายจ๋า!!! ยัยหมวย (แอดมินสาวสวยของเรา) ชื่นชอบการใส่ชุดประจำชาติมากๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ใส่กิโมโน เที่ยวเกาหลีก็ใส่ฮันบก ทริปนี้มาอินเดียมันก็ต้อง “ส่าหรี” สิจ๊ะนายจ๋า!! เพื่อความสะดวก ยัยหมวยเช่าชุดมหารานีชุดนี้มาจากเมืองไทย แบบสวย ดีไซน์สวย เครื่องประดับก็เก๋ ดีงามซะจนสาวๆ อินเดียยังเดินมาชมให้ฟัง แหม... ปลื้มสุดๆ

นอกจากนี้เรายังมีแจ็คเก็ตปักลายเก๋ๆ กับรองเท้าคู่สวยที่เข้าชุดกัน มาใส่เที่ยวถ่ายภาพอีกด้วย งานมีดีเทลแถมสีสัน เวลาถ่ายคู่กับโลเคชั่นสไตล์อินเดีย มันปังมากเลยนะคุณ

3.ราชรถ คือสิ่งจำเป็น : จะเที่ยวให้เฉิดฉาย มหารานีควรมีราชรถคอยบริการ!! Jaipur ไม่ใช่โตเกียว จะคาดหวังให้มีรถไฟใต้ดิน รถบัส รถเมล์ ก็อาจต้องรอนานเกินไป ใช้บริการ “รถเช่าพร้อมคนขับ” สิครับ สบายกว่าเยอะ กำหนดเส้นทางได้ ควบคุมเวลาเดินทางได้ ไม่ต้องหน้ามัน ผมกระเซิง เที่ยวกันสบายๆ จอดปุ๊บ ลงมาถ่ายรูปได้ปั๊บเลย

4.สัมผัสไลฟ์สไตล์แบบไฮโซอินเดีย : แม้ประชากรส่วนใหญ่ของอินเดียจะมีฐานะยากจน อาจมีหลายๆ มุมที่ดูแล้วไม่สะอาดตา ทำให้เวลาที่พูดถึงอินเดีย เรามักจะจินตนาการไปไกลแล้วว่าอินเดียมีแต่มุมสกปรก แต่เดี๋ยวก่อนครับ!! อย่าลืมสิว่าอินเดียก็มีไฮโซนะ แถมจำนวนอภิมหาเศรษฐีในอินเดียก็มีมากมายซะด้วย ดังนั้นถ้าอยากเที่ยวอินเดียให้ปังๆ มันต้องลองสัมผัสไลฟ์สไตล์แบบไฮโซอินเดียดูครับ!! อาทิเช่น...

แวะไปดื่มด่ำกับ Afternoon Tea ที่ Rambagh Palace (โรงแรมแรมแบคห์พาเลซ) ที่นี่คือพระราชวังเก่าของมหาราชาที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงแรม 6 ดาว และมีค่าห้องพักแพงที่สุดใน Jaipur

แวะไปลิ้มรสความอร่อยของร้าน Café Palladio Jaipur ร้านอาหารอิตาเลี่ยนหน้าตาเก๋ไก๋ สุดชิค ที่ติด Top 5  และเป็นร้านในดวงใจนักท่องเที่ยวของทุกสถาบันบรรยากาศร้านนั้นแสนร่มรื่น รสชาติอาหารก็อร่อย ยิ่งเมื่อผสานเข้ากับการตกแต่งสไตล์วินเทจ เน้นโทนสีส้ม-เขียวพาสเทลน่ารักๆ ยิ่งชวนให้ได้ภาพปังๆ มาอวดเพื่อนๆ เยอะทีเดียว

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ เคล็ดลับเที่ยว “ชัยปุระ” ให้ปัง อย่างมหารานี หวังว่าสไตล์การเที่ยวของเราจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับการท่องเที่ยวของพี่ๆ น้องๆ คนทำงานทุกคนนะคร๊าบ!! เจอกันใหม่โอกาสหน้า ทำงานให้เป็นต้องรู้จักเที่ยวนะคร๊าบ

ยังไม่หมดนะ 
ยังมีเรื่องเล่าการเดินทางของ Blogger ชื่อดังอีกกว่า 20 pages แน่ะ
ทั้ง สายท่องเที่ยว สายกิน สายช้อป สายแฟมมิลี่ สายติดแฟน หรือ ไร้สาย หลากหลายรูปแบบมากด้วยประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
และ ตัวตนของพวกเค้าที่เพื่อนๆ ยังไม่รู้จัก 
แล้วเพื่อนๆ จะพบแรงบันดาลใจในการสร้างประสบการณ์การเดินทางของตัวเราเอง 
คลิกเลย!