คุณคิดแบบเรามั๊ย ว่าลูกคือจุดเปลี่ยนของชีวิตจุดหนึ่ง ที่ทำให้เรารู้จักตัวตนอีกด้านหนึ่งของเรา และทำให้เรากล้าเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เราเคยมองข้ามมันไป   เหมือนอย่างพี่เหว่ง ตั้งแต่ตุ๊กรู้จักพี่เหว่งมา พี่เหว่งจะเป็นคนชัดเจนมากในเรื่องของความติดบ้าน ไม่ว่าเทศกาลไหน หยุดเมื่อไหร่ เขาเลือกที่จะอยู่บ้านดูบอลซะมากกว่า จนกระทั่งเรามีลูก ตัวตนของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปทีละนิดในแบบที่เราเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน จากผู้ชายที่ชอบอยู่บ้านมากๆ เริ่มพาลูกออกไปเที่ยวสวนสัตว์ พาไปดูปลา พาไปเดินตลาดน้ำ จากใกล้ๆ ก็เริ่มไกลขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งตุ๊กรู้สึกว่ามันดีมากๆ เพราะการที่เราได้เดินทางพร้อมกันทั้งครอบครัว แม้ว่าจะเหนื่อยกว่าอยู่บ้าน แต่เราได้เห็นลูกได้ทำกิจกรรมที่ต่างออกไปจากเดิม ได้ฝึกความอดทน และฝึกปรับตัวในสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ พ่อแม่ได้ผ่อนคลายจากงานที่วุ่นวาย มาใช้เวลาด้วยกันทั้งครอบครัวจริงๆ เป็นช่วงเวลาที่เรามองดูเขาแล้ว จะเห็นสีหน้า เห็นแววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความสุข มีแต่รอยยิ้ม และความตื่นเต้นต่อสิ่งเเวดล้อมใหม่ๆ รอบตัว

ด้วยความที่ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยมากนัก การไปเที่ยวต่างประเทศแต่ละที จึงใช้เวลาในการวางแผนการเงินนานหน่อย ครั้งแรกที่เราตัดสินใจไปเที่ยวญี่ปุ่นกันแบบครบแกงค์ (จินเคยไปแล้วเมื่อตอน 3 ขวบ แต่เรนนี่ไม่เคยไปเลย) เราวางแผนกันค่อนข้างนาน เพราะเราอยากให้ทั้งเราและลูกๆ ได้สนุกอย่างเต็มที่ (ใน budget ที่พี่เหว่งเองจะไม่เป็นลมซะก่อนเมื่อเห็นบิล) ลองตามมาดูกันนะคะ ว่าเราพาเด็กๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง

ที่แรกที่เราไปคือ โอซาก้า ค่ะ เราพักที่โรงแรม x cross hotel เพราะมีคนแนะนำมาว่าดี เดินทางสะดวก อยู่ติดกับถนนโดทงโบริที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินช้อปกัน มีป้ายกุลิโกะที่ใครไปก็ต้องถ่าย ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงโอซาก้านะ สองวันแรกเราเดินเที่ยวกันในย่านนี้เลย ไม่เหนื่อยลูกทัวร์ดี 555 เป็นที่ๆ ทุกคน แฮปปี้มาก พี่เหว่งได้กินอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ตุ๊กได้เดินช้อปปิ้ง เรนนี่ได้ทานดังโงะเป็นครั้งแรก ส่วนจินก็เดินกดตู้ไข่กาชาปองเกือบทั่วโอซาก้าแล้ว เพราะที่นี่ตู้กดไข่มีเรียงรายตลอดทุกย่างก้าวเลยทีเดียว มื้อเย็นของวันแรก เราได้น้องแจนที่ติดตามเพจ Little Monster แล้วรู้ว่าพวกเรามาเที่ยวโอซาก้า อาสาพาไปทานซูชิเจ้าดัง โชคดีมากที่มีน้องแจนอยู่กับเรา เพราะเราอ่านเมนูกันไม่ออกเลยค่ะ 555 ได้น้องแจนเป็นล่ามสั่งอาหารให้ อร่อยทุกเมนูจริงๆ

เช้าวันที่สี่ เราเช่ารถเพื่อจะขับข้ามเมืองไปที่นาโกย่ากันเพราะมีเพื่อนอยู่ที่นั่น การขับรถที่ญี่ปุ่นไม่ยากเลย ในรถก็มี GPS คอยบอกเส้นทางอย่างละเอียด เราขับกันประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็ถึงปลายทาง คราวนี้เราพักโดยใช้บริการ Airbnb ถือว่าได้สถานที่โอเคเลยค่ะ สะอาด มีฮีตเตอร์ในห้อง มีเคาน์เตอร์ครัวให้ทำอาหารกันเองได้ด้วย มีน้ำอุ่นให้แช่ อ่างของเขาก็จะเล็กๆ ตามสไตล์บ้านคนญี่ปุ่นที่ใช้พื้นที่อย่างประหยัด แต่ขนาดห้องก็พอเหมาะกับครอบครัวเราดี มื้อเย็นวันนี้เราได้น้องเปา พาไปทานบุฟเฟชาบูเจ้าอร่อยที่นั่น ร้านอยู่ในห้างอิออน ชื่อว่าร้าน ชาบูไซ รสชาติอร่อยถูกปากเช่นเคย น้ำซุปกลมกล่อม จินกับเรนนี่เจริญอาหารมาก กินเยอะเป็นพิเศษ ระหว่างทานอาหารพวกเราก็นั่งวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีในวันพรุ่งนี้ น้องเปาบอกว่าจะพาพวกเราไปที่สวนสนุกชื่อ Nagashima Spa Land น่าจะถูกใจจินกับเรนนี่แน่ๆ พอเด็กๆ ได้ยินว่าจะไปสวนสนุกก็ตื่นเต้นเฝ้ารอ เกือบจะไม่ยอมหลับยอมนอนกันเลยทีเดียว

การไปเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้ ตุ๊กยังประทับใจจนทุกวันนี้เลยค่ะ 555 พวกเราแฮบปี้มาก ได้ไปเที่ยวและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ อาหารอร่อย ที่พักสะอาด สถานที่เที่ยวสนุก ถึงจะเดินเยอะไปหน่อย อากาศหนาวไปนิด แต่คุ้มค่าและอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้งจริงๆ พี่เหว่งก็ดูมีความสุขที่ได้เล่นและใช้เวลากับลูก ถ้าไม่ได้มาเที่ยวแบบนี้ก็คงหาเวลาเล่นกับลูกนานๆแบบนี้ได้ยาก เพราะภาระงานต่างๆที่อดทำไม่ได้ตอนอยู่ที่ไทย รอพวกเราเก็บเงินอีกสักแป็บนึง แล้วเดี๋ยวจะไปเที่ยวญี่ปุ่นและจะเอามาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

ยังไม่หมดนะ 
ยังมีเรื่องเล่าการเดินทางของ Blogger ชื่อดังอีกกว่า 20 pages แน่ะ
ทั้ง สายท่องเที่ยว สายกิน สายช้อป สายแฟมมิลี่ สายติดแฟน หรือ ไร้สาย หลากหลายรูปแบบมากด้วยประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
และ ตัวตนของพวกเค้าที่เพื่อนๆ ยังไม่รู้จัก 
แล้วเพื่อนๆ จะพบแรงบันดาลใจในการสร้างประสบการณ์การเดินทางของตัวเราเอง 
คลิกเลย!